พลิกวิกฤต! ลูกสาวชาวสวนจบปริญญาตรี หันหลังให้มนุษย์เงินเดือนมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด นำความรู้แปรรูปมะม่วงในสวน ช่วยพ่อแม่แก้ราคาผลผลิตตกต่ำ
น้องก้อย นางสาวฐิติมา มาใหญ่ นิสิตสาวจากมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม สาขาคหกรรมศาสตร์ ลูกสาวชาวสวนมะม่วง อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ได้หันหลังให้กับการเป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งได้ค่าตอบแทนไม่คุ้มค่าเล่าเรียนที่พ่อแม่ได้ส่งเสียไป จึงมุ่งหน้ากลับบ้านเกิดมาช่วยพ่อแม่สืบทอดอาชีพเกษตรกรรม โดยนำความรู้ที่เรียนมาแปรรูปมะม่วง พันธุ์มหาชนก เป็นมะม่วงอบแห้ง
โดยน้องก้อย เล่าว่า ปัจจุบันนี้มะม่วงมหาชนกราคาเหลือแค่กิโลกรัมละ 6 บาท แต่ถ้าเป็นมะม่วงแก่สุกคาต้นที่ผิวมีตำหนิจากในสวน ซึ่งถ้านำไปขายก็จะได้แค่กิโลกรัมละ 1-2 บาท จึงตัดสินใจนำมะม่วงที่แก่สุกคาต้นมาปอกเปลือก และฝานเป็นชิ้นนำไปทำเป็นมะม่วงอบแห้ง โดยใช้เวลาอบในตู้อบ 15 ชั่วโมง ถ้ามะม่วง 10 กิโลกรัม จะทำเป็นมะม่วงอบแห้งได้ 1.5 กิโลกรัม ขายในกิโลกรัมละ 300 บาท
ก่อนนำไปบรรจุใส่ซองที่มีรูปแบบสวยงามปริมาณ 50 กรัม ขายถุงละ 35 บาท บรรจุกระป๋องสูญญากาศปริมาณ 200 กรัม ขายกระป๋องละ 95 บาท เป็นของกินของฝากที่ทำให้ผลผลิตเพิ่มมูลค่า ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจสั่งซื้ออยู่เป็นประจำแต่วันหนึ่งๆสามารถผลิตได้แค่ 50-100 กิโลกรัม เท่านั้น เนื่องจากขาดแคลนแรงงานรวมถึงค่าแรงงานก็มีราคาสูงจึงทำเป็นอุตสาหกรรมครอบครัวในหมู่ญาติพี่น้องแต่ก็ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตราคาผลผลิตมะม่วงมหาชนกที่ตกต่ำ เปลี่ยนจากวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการเติมภูมิปัญญาและองค์ความรู้ใส่เข้าไป ก็ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้มะม่วงมหาชนก ราคาตกเหลือแค่กิโลกรัมละ 6 บาท นั้น สืบเนื่องจากมะม่วงในเขตภาคเหนือตอนบนผลผลิตออกมาชนกัน ทำให้มีปริมาณมากจนล้นตลาด อีกทั้งมีผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด จึงทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกกินผลไม้อื่นๆ จนเป็นเหตุให้เกษตรกรที่ปลูกมะม่วงมหาชนก ในเขตพื้นที่ตำบลวังทับไทรซึ่งมีการปลูกบนพื้นที่เกือบ 300 ไร่ ต้องประสบปัญหาสภาวะขาดทุน ทั้งนี้ ทางภาครัฐได้ร่วมหารือกับเกษตรกร ในการหาช่องทางการตลาด รวมถึงให้คำแนะนำในการแปรรูปผลผลิต เพื่อเป็นช่องทางในการขายอีกรูปแบบหนึ่ง
สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน หรือสั่งซื้อมะม่วงอบแห้ง “ฐิติมา” ก็สามารถติดต่อได้ที่ 092-5212301 ,081-9536237 ,081-3794311 หรือสามารถเข้าไปดูได้ที่ เฟซบุ๊ก “ฐิติมาผลไม้แช่อิ่ม”