พายุพัดถล่ม 9 อำเภอใน จ.ศรีสะเกษ ทำให้บ้านเรือนและโรงเรียนเสียหายยับ นักเรียนกว่า 100 คน ต้องอาศัยศาลาวัดเป็นที่เรียนชั่วคราว ด้านผู้ว่าฯ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน
สภาพความเสียหายของ ร.ร.บ้านหนองอิไทย ต.สุขสวัสดิ์ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (25 เม.ย.61) ทำให้อาคารเรียนแบบ ศก04 ซึ่งมี 2 ชั้น 6 ห้องเรียน โดนลมพายุพัดพังยับเยิน หลังคาโดนลมพายุพัดหอบลงมากองบริเวณสนามหน้า ร.ร. ทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอนและเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 20 เครื่องถูกน้ำฝนได้รับความเสียหาย อีกทั้งฝ้าเพดานพังลงมากองกับพื้นห้องชั้นบน ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งเอกสารการจัดการเรียนการสอนโดนน้ำฝนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เบื้องต้น นายไพบูลย์ ศรีสุธรรม ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการสำรวจความเสียหายของ ร.ร. โดยได้สั่งการให้ นายสมยศ โชคเหมาะ ผอ.ร.ร.บ้านหนองอิไทย ทำการสำรวจความเสียหายทั้งหมด ซึ่งคาดว่า จะต้องสร้างอาคารหลังใหม่ทดแทน เนื่องจากว่ามูลค่าเสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท อีกทั้งเป็นอาคารหลังเก่ามีอายุการใช้งานมานานกว่า 27 ปีแล้ว ทำให้ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมให้ใช้การได้ดีเหมือนเดิมได้ และขณะนี้ใกล้จะเปิดภาคเรียนแล้ว ทำให้ น.ร.ประมาณ 100 คน ไม่มีที่เรียนเพียงพอ ทาง ร.ร.จะต้องหาที่เรียนให้เด็กนักเรียนอาจจะต้องใช้ศาลาวัดของวัดหนองอิไทย ซึ่งอยู่ใกล้กัน ให้เป็นที่เรียนหนังสือชั่วคราว
นายภูริต อภิรักษ์วรการ นายก อบต.สุขสวัสดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 25 เม.ย.61 ที่ผ่านมา เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดโหมกระหน่ำในเขต อ.ไพรบึง ซึ่งลมกระโชกแรงมาก ทำให้บ้านเรือนประชาชน คอกสัตว์ และโรงเรียน ได้รับความเสียหาย ของชาวบ้านในเขต ต.สุขสวัสดิ์ บ้านเสียหายบางส่วน 27 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง ต.โนนปูน บ้านเสียหาย 10 หลังคาเรือน และ ต.สำโรงพลัน ฟ้าผ่าวัวตาย 1 ตัว ซึ่งขณะนี้ นายปราจิต แก้วลา นายอำเภอไพรบึง ได้สั่งการให้จนท.จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบวาตภัยในครั้งนี้แล้ว
ทางด้าน นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.2561 ถึงปัจจุบัน ปรากฏว่ามีพื้นที่ประสบความเสียหาย รวม 9 อำเภอ 21 ตำบล 43 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 109 ครัวเรือน แยกเป็น บ้านเสียหายบางส่วน 91 หลัง คอกสัตว์ ยุ้งข้าว 14 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรซึ่งเป็นสวนทุเรียนเสียหาย 6 ไร่ ดังนี้ โดยที่ อ.กันทรลักษ์ ม. 1,15 และ ม. 17 ต.กระแซง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 6 หลัง ถนน ม.15 ได้รับความเสียหาย 1 เส้นทาง อ.ขุนหาญ ม. 14 ต.พราน สวนทุเรียนได้รับความเสียหาย 6 ไร่ 159 ต้น โค่นล้ม 3 ต้น และผลทุเรียนหล่นประมาณ 3 ตัน
นายบุญประสงค์ กล่าวต่อไปว่า อ.เมืองศรีสะเกษ ม. 5 ต.โพนค้อ และ ม.11 ต.จาน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2 หลัง คอกสัตว์ 5 หลัง ยุ้งข้าว 2 หลัง อ.ขุขันธ์ ม.6,10,13,17 ต.สะเดาใหญ่ ม.1 ต.ห้วยใต้ ม.4 ต.ห้วยเหนือ ม.1,5,6,9 ต.ดองกำเม็ด ม. 7 ต.ตะเคียน ม.10 ต.ลมศักดิ์ และ ม.8 ต.หนองฉลอง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 17 หลัง ยุ้งข้าว 4 หลัง อ.ปรางค์กู่ ม.5 ต.กู่ บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 5 หลัง ยุ้งข้าว 1 หลัง อ.ภูสิงห์ ม.15,16 ต.ห้วยตึ๊กชู ม. 5 ต.ห้วยตามอญ ม.9 ต.โคกตาล ม.6 ต.ไพรพัฒนา บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 15 หลัง อ.ไพรบึง ม.11,14 ต.ไพรบึง, ต.สุขสวัสดิ์, ต.โนนปูน และ ต.สำโรงพลัน บ้านเรือนเสียหาย 41 หลัง ร.ร.บ้านหนองอิไทย 1 แห่ง ฟ้าผ่าวัวตาย 1 ตัว อ.โนนคูณ ม.3,5,10 บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2 หลัง โรงเรือน 2 หลัง อ.พยุห์ ม.1 ต.หนองค้า บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3 หลัง แต่ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะเดียวกัน นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ สั่งการให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท้องที่ประสบวาตภัยเข้าสำรวจความเสียหายแล้ว ซึ่งตนจะเดินทางไปตรวจสอบความเสียหายด้วยตนเอง ในช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อที่จะได้หาทางให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป