เกิดเหตุลูกชาย เกิดมีปากเสียงกับพ่อ หลังพ่อห้ามเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิทบูลในบ้าน จนเกิดบันดาลโทสะใช้ปืน 11 มม. จ่อยิงพ่อเข้าที่หน้าผากทะลุท้ายทอยบาดเจ็บสาหัส ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงเข้าหน้าอกตัวเองจนเสียชีวิตคาห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำร่างของนายอำพล ชลภักดี ส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ หลังถูกลูกชาย คือ นายวัชระ ชลภักดี ใช้ปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายทะลุด้านหลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่หน้าห้องน้ำ ภายในบ้านเลขที่26/29 ถนนราษฎร์ยินดี เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนที่นายวัชระ จะใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงเข้าที่กลางหน้าอก จนเสียชีวิตภายในห้องน้ำของบ้านหลังดังกล่าว หลังเกิดเหตุ ตำรวจภูธรหาดใหญ่ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ 5 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บนห้องนอนชั้นที่5 พบปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ข้างๆ ศพของนายวัชระ ตำรวจจึงได้เป็นไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่าปืนดังกล่าว ถูกต้องตามกฎหมาย หรือเป็นปืนที่นายวัชระ เคยนำไปใช้ก่อเหตุปล้นร้านทองทรัพย์ไพศาล ย่านซีกิมหยง กลางเมืองหาดใหญ่หรือไม่
จากการสอบสวนบุคคลภายในบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวัชระ มีปากเสียงกับ นายอำพล เรื่องที่นำสุนัขพันธุ์พิิบูลมาเลี้ยงในบ้าน เนื่องจากภายในบ้านมีลูกน้อยวัย 5 ขวบ อีก1 คน ที่เกิดจากภรรยาใหม่อยู่ด้วย นายอำพล เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันขึ้น ก่อนที่นายวัชระ จะไปหยิบเอาปืนในลิ้นชักออกมาจ่อยิงพ่อตัวเอง ก่อนที่จะหันปากกระบอกปืนเข้าที่หน้าอก เพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุ เจ้าสุนัขพันธุ์พิทบูลที่นายวัชระเลี้ยงไว้ ได้นั่งเฝ้าศพของนายวัชระ อยู่ใกล้ๆ จนญาติต้องช่วยนำไปผูกไว้ที่ชั้น2
สำหรับ นายวัชระ นั้น เคยก่อเหตุบุกเดี่ยวปล้นร้านทองทรัพย์ไพศาล ย่านซีกิมหยง กลางเมืองหาดใหญ่ ได้ทองหนัก 50 บาท มูลค่า 8 แสนบาท เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 2552 แต่ถูกตำรวจจับกุมได้ โดยรับสารภาพว่า เป็นหนี้พนันฟุตบอล และถูกจับดำเนินคดี ก่อนที่จะพ้นโทษออกมาได้ราวปีกว่า กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น