สปสช. มีแนวโน้มที่จะยอมขยายเวลาให้โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะอีก 1 ปีในการเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อผ่าตัดหัวใจได้ตามปกติ แม้จะตรงตามกฎเกณฑ์บางข้อก็ตาม
นพ.ประจักศวิช เล็บนาค เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อาจจะขยายเวลาให้โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ไปอีก 1 ปี ในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ คือการหาศัลยแพทย์หัวใจมานั่งประจำ 1 คนในเวลาราชการ ซึ่ง สปสช. ต้องหารือกับโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง สำหรับคนไข้ที่มีคิวจะผ่าตัดหัวใจ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 นี้ก็สามารถทำได้ตามปกติ จุดยืนที่สำคัญ สปสช. วางไว้ว่า 1) เพื่อคุณภาพมาตรฐาน 2) เพื่อให้คนไข้ในระยะเปลี่ยนผ่าน คนไข้เดิมและที่จะเกิดขึ้นใหม่จะต้องไม่ย้ายคนไข้ในทันที หรือหาคิวไม่ได้จนเกิดอันตรายต่อคนไข้ ซึ่ง สปสช. และโรงพยาบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น
การที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ผ่านเกณฑ์ข้อย่อยข้อเดียวนี้ ข้ออื่นผ่านหมด ไม่ได้หมายความว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่มีมาตรฐาน ขอยืนยันว่ามีมาตรฐานแต่ไม่ครบตามเกณฑ์จึงทำให้ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อผ่าตัดหัวใจในระบบบัตรทองได้ซึ่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ เองได้ให้ความช่วยเหลือระบบบัตรทองและ สปสช. มาโดยตลอด ที่สำคัญคือได้ดูแลประชาชนและผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด
หลังจากได้ข้อสรุปแล้วทีมข่าวก็เดินทางมาพบกับ พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ทันที ซึ่งนายแพทย์เหรียญทอง บอกว่า ตอนนี้โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ มีศัลยแพทย์หัวใจ 9 คน ซึ่งทุกวัน จันทร์ถึงอาทิตย์จะมีศัลยแพทย์หัวใจและทุกด้าน ๆ ประจำ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่งโรงพยาบาลนตนเป็นโรงพยาบาลเอกชน ปกติค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่นี่เน้นรักษาคนจนให้ได้คุณภาพมาตรฐานโดยไม่ให้เดือดร้อน เพราะตนทำตามแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าขาดทุนคือกำไร ถึงโรงพยาบาลตนจะขาดทุนในงบประมาณ แต่กำไรคือทำให้หมอในโรงพยาบาลเก่งขึ้น และผลพลอยได้ทำให้มีชาวต่างชาติเดินทางมาผ่าตัดหัวใจเยอะมาก และปัญหาในส่วนนี้คนเดือนร้อนคือคนไข้หลายหมื่นคนเลยทีเดียว อยากให้ปัญหาครั้งนี้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี สุดท้าย นายแพทย์เหรียญทอง ขอบคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ประชุมและให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาครั้งนี้