ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ 2 ผัวเมียที่มีลักษณะคล้ายผู้ต้องสงสัยก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในพื้นที่ จ.กาญจนบุรีเอาไว้ได้ ตำรวจจึงเร่งติดตามตัว ด้านคนร้า่ยไหวตัวทันขับมอไซค์หนีรอบเมืองแต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด
ตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรีติดตามจับกุมคนร้ายชายหญิงขับขี่จักรยานยนต์ก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบบุคคลจ้องสงสัยเป็นชายใส่หมวกกันน๊อกขับจี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาวน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 1กต.1337 ราชบุรี โดยมีผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายใส่แมสหน้ากากปกปิดที่บริเวณใบหน้า ซึ่งคล้ายกับภาพผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ชาวต่างชาติมา 3 ครั้ง
ขณะเข้าติดตามผู้ต้องสงสัยไปแต่ผู้ต้องสงสัยไหวตัวขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางต่างๆรอบตัวเมืองกาญจนบุรี ตำรวจท่องเที่ยวกาญจนบุรีจึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจาก พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อร่วมสกัดจับจนสามารถควบคุมตัวได้ในที่สุด ทราบชื่อต่อมาคือ นายธิติพร สุขสมบัติ อายุ 28 ปี น.ส.ลลิตา ประเสริฐสุข อายุ 29 ปี เป็นสามีภรรยากัน โดยจากการสอบสวนนานกว่า 1 ชม. ทั้งสองคนรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ชาวต่างชาติทั้ง 3 รายจริง
ตำรวจสืบสวนท่องเที่ยวจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนขยายผลเดินทางไปตรวจค้นห้องพักที่เป็นห้องเช่า ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี พบของกลางทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถูกชิงทรัพย์ไปจำนวนมาก ทั้งกระเป๋าถือ กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ พาสปอร์ต บัตรเครดิต และเอกสารของนักท่องเที่ยวอยู่ในห้องพัก จึงทำการรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นของกลางและนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป
สำหรับคนร้ายทั้ง 2 คนได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยว 3 ครั้ง 2 ครั้งแรกก่อเหตุที่บริเวณหลังสุสานสหประขาติ เมื่อเดือน มิ.ย.60 คดีแรก ชิงทรัพย์ ชาวสิงคโปร์ ห่างกันประมาณ 10 วันชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยม และล่าสุด เมื่อ 11 ก.ค.60 ก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวสาวชาวฝรั่งเศสที่บ้านลิ้นช้าง หมู่ 1 ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยคนร้ายทั้งสองคนเดินทางมาจากจังหวัดราชบุรี เพื่อมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่เมืองกาญจนบุรี โดยเลือกเหยื่อเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่อจากนั้นก็นำทรัพย์สินที่ได้ไปขายบ้างจำนำบ้างนำเงินไปเที่ยวเตร่ โดยคนร้ายผู้ชายเมื่อ 2556 เคยถูกจับดำเนินคดีชิงทรัพย์ชาวต่างชาติ ถูกพิพากษาจำคุก 4 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2559