อีก 3 วัน! หลวงปู่หนูอินทร์ ขอบิณฑบาตร เหยื่อทัวร์มรณะ ก่อนให้ญาติมาเก็บกระดูก เผยถือความเชื่อโบราณ ลดอาถรรพ์ตายโหง
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อวานนี้ ที่วัดป่าดงกระยอม ตำบลห้วยโพธิ์ และวัดป่าพุทธมงคล ตำบลหลุบ ได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุรถทัวร์มรณะ ซึ่งได้ฌาปนกิจแบบเผากองฟอนหรือเชิงตะกอน ตามทำเนียบโบราณเนื่องจาก เมรุที่จะเผาไม่เพียงพอ ทั้งนี้การเผาศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยที่วัดดงกระยอม ตำบลห้วยโพธิ์ ได้ทำการฌาปนกิจไป 5 ศพ
ขณะที่วัดป่าพุทธมงคล ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้ฌาปนกิจจำนวน 9 ศพ แต่ในวันนี้ทั้งสองวัดญาติไม่ได้ทำการเก็บกระดูกผู้เสียชีวิต เนื่องจาก หลวงปู่หนูอินทร์ เจ้าอาวาส ได้ขอบิณฑบาตรเอาไว้เพราะเป็นการลดความร้อนแรง และต้องการให้เป็นไปตามความเชื่อของโบราณประเพณี เพราะการเสียชีวิตที่ไม่ปกติธรรมดาถือว่าเป็นผีตายโหง จึงจำเป็นที่จะต้องลดความร้อนแรงของอาถรรพ์ จึงได้ปล่อยเอาไว้ 3 วัน ครบตามนั้นจึงจะทำพิธีเลี้ยงพระและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต วันนี้ญาติจึงทำได้แค่เพียงการทำบุญ
ด้านญาติ ได้มีการเตรียมเอกสาร เพื่อส่งกับเจ้าหน้าที่ คปภ.เพิ่มเติม เพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทน เพราะรถคันนี้ได้ทำประกันแบบภาคบังคับ และทำประกันแบบภาคสมัครใจเอาไว้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินรายละ 650,000 บาท ทันทีเมื่อผ่านการตรวจเอกสาร ซึ่งขณะนี้เอกสารได้ผ่านแล้ว 10 ราย ซึ่งการจ่ายค่าสินไหมจะเริ่มในวันที่ 27 มีนาคมนี้
สำหรับผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย ก่อนหน้านี้ญาตินำศพฌาปนกิจเอง โดย 2 ราย คือ 1.นายวิรุฬห์ ตะก้อง ทำการฌาปนกิจศพที่วัดชัยสุนทร เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และ 2.นายสีไพร เผือดผุด ญาติทำการฌาปนกิจศพไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก 2 ราย ญาติจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 26 มี.ค. 61 โดยนางเรียน ธารวาวแวว ฌาปนกิจศพที่วัดดงกระยอมอุดมคุณ บ้านดลางดง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และนางสายธาร สุทธิชุม จะฌาปกิจศพที่วัดดอนสนวน บ้านดอนสนวน ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
ตำรวจโคราช ชี้โชเฟอร์ตีนผีอาจไม่เข้าข่ายพยายามฆ่า
ส่วนความคืบหน้าทางคดีหลังจากตำรวจภูธรอุดมทรัพย์ จ.นครราชสีมา จับกุม นายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถทัวร์คันดังกล่าวก่อนถูกแจ้ง 4 ข้อหาหนัก คือ ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อเหตุแล้วหนี มีสารเสพติดในร่างกาย และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยเมื่อวานนี้ เหยื่อผู้รอดชีวิตระบุว่า ขณะเกิดเหตุ นายกฤษณะ ทิ้งพวงมาลัยและกระโดดรถหนีไป จึงเชื่อว่าจงใจที่จะให้ผู้โดยสารในรถบัสเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งอาจจะเข้าข่ายพยายามฆ่านั้น
ล่าสุด พันตำรวจเอกบุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนเร่งสอบสำนวนเน้นไปที่เรื่องการขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นหลักก่อน ส่วนเรื่องที่มีพยานจะให้ปากคำอย่างไรนั้นจะได้นำมาประกอบสำนวนอีกครั้ง แต่โดยปกติแล้วข้อหาพยายามฆ่าจะต้องมีเหตุมาก่อน เช่น ทะเลาะวิวาทหรือเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งเหตุดังกล่าวต้นเหตุมาจากขับรถโดยประมาท ดังนั้นจึงอาจจะไม่เข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่า โดยขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อสรุปสำนวนคดีให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนส่งอัยการฟ้องศาลต่อไป