อธิบดีราชทัณฑ์แจง”สนธิ”ตาใกล้บอดเกิดจากสาเหตุถูกลอบยิง ระบุส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลตำรวจต่อเนื่อง ปัจจุบันถุกขังแดนชรา ระบุอย่าให้ราคาคนโพสต์เฟชบุ๊ค อาจหวังผลการเมือง
นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล มีอาการป่วย ตาซ้ายกำลังบอดสนิท แต่สนธิไม่ได้เรียกร้องให้นำตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก หรือรักษาในโรงพยาบาลในเรือนจำ ทั้งนี้อาการตาข้างซ้ายที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นจากเหตุนายสนธิถูกลอบยิง ไม่ใช่อาการป่วยภายหลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำ และถ้ามีอาการกำเริบทางเรือนจำก็ต้องส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นเจ้าของไข้ ที่ผ่านมาก็มีการตรวจรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้สั่งการให้นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง และได้รายงานมาว่าในเดือนสิงหาคมได้นำตัวนายสนธิออกไปตรวจรักษาอาการที่ โรงพยาบาลตำรวจถึงสามครั้ง และปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่แดน 7 ซึ่งจัดไว้สำหรับคุมขังผู้ต้องขังชราในเรือนจำกลางคลองเปรม และนายสนธิไม่เคยขอใช้สิทธิหรือเรียกร้องสิ่งใดเป็นพิเศษปฎิบัติตัวเหมือนผู้ต้องขังชราทั่วๆไป ใช้เวลาทั่วไปอ่านหนังสือ นั่งสมาธิ และทำกิจกรรมอื่นๆ
ส่วนกรณีที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โพสต์เฟสบุ๊คนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่ามีจุดประสงค์อย่างไร หวังผลทางการเมืองหรือไม่ หรือหวังผลด้านการได้รับอภัยโทษ จึงไม่อยากให้สังคมให้ความสนใจเนื่องจากกรมราชทัณฑ์มีระเบียบปฎิบัติในการดูแลนักโทษชราหรือนักโทษที่มีอาการเจ็บป่วยอยู่แล้วสำหรับกรณีการเจ็บป่วยตาบอดและการเป็นผู้ต้องขังชรา จะสามารถร้องขอให้พัการลงโทษให้กับนายสนธิได้หรือไม่นั้น นายกอบเกียรติ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการพักการลงโทษกำหนดไว้ชัดเจนว่า ผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติพักการลงโทษจะต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วอย่างน้อย 2 ใน 3 เมื่อผ่านคุณสมบัติข้อแรกจึงจะนำมาพิจารณาในประเด็นการเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ส่วนกรณีป่วยหนักหรือพิการจะอยู่ในเกณฑ์ต่อเมื่อตาบอด 2 ข้าง แขนขาด 2 ข้าง หรือขาขาด 2 ข้าง ดังนั้นกรณีของนายสนธิจึงยังไม่เข้าเกณฑ์ขอพักการลงโทษ
