วันนี้กระทรวงการคลัง และ กระทรวงสาธารณะสุข แถลงด่วนในเรื่องนี้ทันที โดยนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า การออกระเบียบกระทรวงการคลังในการยกเลิกการจ้างพนักงาน หรือ ลูกจ้างชั่วคราวที่ใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณฯ นั้นเป็นการทำตามคำสั่งมติคณะรัฐมนตรี และนโยบายกำลังคนภาครัฐ หรือ คปร. ในการจัดระเบียบปริมาณพนักงานและลูกจ้างข้าราชการให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะ ปัจจุบันมีหน่วยงาน 2 แบบที่จ้างลูกจ้างชั่วคราว แบบแรก คือ ใช้เงินนอกงบประมาณ ซึ่งหน่วยงานนี้จะเป็นหน่วยงานที่ได้รับการตกลงจากกระทรวงการคลัง การจ้างต่างๆ จึงเป็นไปตามกฎของกระทรวงการคลังส่วนอีกประเภทคือ เคยมีการดำเนินการจ้างอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตกลงจากกระทรวงการคลัง ก็ต้องมามาปฏิบัติตามระเบียบที่ถูกต้อง โดยในส่วนนี้มีการจ้างลูกจ้างชั่วคราว จากเงินนอกงบประมาณ ซึ่งใช้เงินจากกระทรวงการคลัง เป็นเงิน 421 ล้านบาทในปี 2561 ซึ่งเงินในส่วนนี้จะสามารถใช้ได้จนกว่าจะหมดรอบการจ้างงาน
ซึ่งประกาศของกระทรวงคลังที่ออกมา ก็เพื่อต้องการให้ทุกหน่วยงานราชการมีการดำเนินการตามระเบียบเดียวกัน เพราะจะทำให้สามารถรู้ได้จำนวนพนักงาน และลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการกำหนด เงินนอกงบประมาณในปีต่อไปๆ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวยืนยันว่า ระเบียบนี้เป็นระเบียบทั่วไป ไม่มีผลกระทบต่อ สธ. เพราะ สธ. มีการทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลังไว้แล้ว ซึ่งระเบียบฉบับนี้จะมุ่งเน้นกับส่วนราชการที่ยังไม่เคยทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง
นพ.เจษฎา กล่าวว่า สธ. จะใช้ระเบียบว่า ด้วยเงินบำรุงฯ ในการจ้างแทน โดยอัตราค่าจ้างไม่จำเป็นต้องเป็นอัตราเดียวกับกระทรวงการคลัง เนื่องจาก สธ. มีมากถึง 60 วิชาชีพ ค่าจ้างต่างๆ จึงไม่เท่ากัน โดยกรมบัญชีกลาง จะมีการออกประกาศเพิ่มเติมในช่วงเย็นวันที่ 23 พ.ค. นี้เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวข้องกับ สธ. ที่มีการทำข้อตกลงไว้อยู่ก่อนแล้ว โดย สธ. มีลูกจ้าง 2 แบบ คือ จ้างแบบรายปี และ จ้าง 4 ปี ดังนั้นในกลุ่มจ้างปี ต่อปีก็ต้องทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลังทุกปี ส่วนกลุ่ม 4 ปีเมื่อครบก้ต้องมาทำข้อตกลงใหม่
หลังจากนี้ จะนำหนังสือของกรมบัญชีกลางและแนบท้ายเรื่องการทำความเข้าใจสื่อให้กับทุกหน่วยงานทุกโรงพยาบาลให้ทำความเข้าใจด้วย ส่วนที่มีโรงพยาบาลออกมาเคลื่อนไหวต่างๆ นั้น เชื่อว่า วันนี้เมื่อทราบข้อมูลแล้วก็คงจะเข้าใจและจบ เพราะอธิบดีกรมบัญชีกลางชี้แจงชัดเจนว่า สธ. ใช้ระเบียบเดิม”
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทและผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ จ.ขอนแก่น ออกจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ที่กี่ยวข้อง แสดงความรับผิดชอบ ในการออกระเบียบด้วยวิถีคิดที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงด้วยการลาออก โดยระบุว่า กระทรวงการคลังไม่เข้าใจสถานการณ์จริง
การออกระเบียบนี้เท่ากับเป็นการรวบอำนาจการพิจารณากลับสู่กระทรวงการคลัง ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะไม่ใช่เงินงบประมาณ แต่เป็นเงินบำรุงที่โรงพยาบาลเก็บหอมรอบริบ เป็นเงินบริจาค เงินทอดผ้าป่า การคุมเช่นนี้เท่ากับเป็นการทำลายโรงพยาบาล และโรงพยาบาลไม่ได้ใช้จ้างเฉพาะลูกจ้างทำความสะอาดหรือพนักงานเปล แต่ใช้จ้างตั้งแต่แพทย์ เภสัชกร พยาบาล เทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด และวิชาชีพต่างๆ หากลูกจ้างทุกวิชาชีพลาออกหรือโรงพยาบาลจะขยายงานคงต้องรอกันหลายเดือน คนที่เดือดร้อนคือทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการ ที่ต้องเผชิญความเครียดจากระเบียบที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง