สธ.บุกศูนย์ตอกเส้นสีไพร ปากเกร็ด หลังผิด พ.ร.บ.การแพทย์แผนไทย สั่งปิดทันที
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 21 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ชั้น 2 อาคารอวตารคลินิก เลขที่ 18/49 หมู่ 5 ซอยสุขาประชาสรรค์ 48 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ตอกเส้นสีไพร สาขาปากเกร็ด หลังจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊กโพสต์ว่า ” ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมา 7 ปี รักษานวดตอกเส้น อาการดีขึ้นทันตาเห็น นวดตอกเส้นสีไพร” “เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมา 7 ปี หมอสั่งผ่า ถูกไล่ออกจากงาน อาตมาจัดให้จบม้วนเดียว ได้ชีวิตใหม่ นี่แหละคนหมดกรรม”
ซึ่งหลังจากมีการเปิดเผยเรื่องราวออกไปทางโซเชียลและภาพข่าว ปรากฎว่าในวันนี้ตลอดทั้งวันมีผู้คนหลั่งไหลเดินทางมาที่ศูนย์แห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก บางรายลูกหลานก็พาผู้ใหญ่ คุณป้า คุณตา ที่มีอาการปวดเส้น ปวดกระดูก ตลอดจนยังมีนายทหาร เดินทางมารอเข้าคิว กรอกประวัติ ลงทะเบียน โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 300 บาท เพื่อให้หมอตอดเส้น อีกทั้งยังมีผู้โทรศัพท์เข้ามาตลอดเวลาเพื่อถามที่ตั้งของศูนย์และการเดินทางไปเพื่อจะมารับการรักษา
ต่อมา นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมนายไกรธวัช ทินโสม นายอำเภอปากเกร็ด ปลัดอำเภอปากเกร็ด เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอปากเกร็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้เดินทางเข้าตรวจสอบศูนย์ตอกเส้น สาขาปากเกร็ด ที่อาคารดังกล่าว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์กำลังทำการบำบัดผู้ที่เข้ารับการรักษาและสั่งให้หยึดการรักษาทันที พร้อมทั้งขอตรวจสอบใบอนุญาติพบว่าไม่มีใบอนุญาตให้ทำการรักษา จึงได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 5 คนเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนพระมหาสีไพร อาภาธโร ไม่ได้อยู่ที่ศูนย์ดังกล่าวซึ่งรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วและจะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สภ.ปากเกร็ด ต่อไป
นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า วันนี้หลายหน่วยงานได้มาร่วมกันตรวจสอบตามที่มีข่าวว่าที่นี่ได้รับตอกเส้นโดยมูลนิธแห่งหนึ่ง หลังจากเข้ามาพบว่าชั้นหนึ่งเป็นคลินิกได้รับอนุญาตถูกต้อง พอขึ้นชั้นสองมีการตอกเส้นหลายท่านได้ชี้แจ้งข้อกฏหมายให้แต่ละท่านทราบว่าการกระทำแบบนี้ผิด พ.ร.บ.การแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 มีอัตราโทษจำคุก 3 ปีปรับ 60,000 บาท และให้หยุดกระทำและเชิญตัวไป สภ.ปากเกร็ดทั้งหมดเพื่อให้ปากคำ ส่วนจะให้การอย่างไรก็แล้วแต่
การตอกเส้นแบบนี้ในเบื้องต้นเรียกว่าศาสตร์การแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการแพทย์แผนไทยจะจัดเข้าระบบ ก่อนที่จะมาวันนี้ได้มีการหารือกับทางการแพทย์แผนไทยแล้วว่าการกระทำต่อร่างกายมนุษย์เข้าข่ายการแพทย์แผนไทยหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบชัดเจนว่าใช่ ในฐานะเป็นผู้ถือข้อกฏหมายได้เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ สำหรับการจะเปิดการตอกเส้นแบบนี้ ให้ไปขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อย โดยการทำการวิจัยมาให้ชัดเจนเพื่อทางสาธารณสุขจะได้จัดเข้าระบบให้ถูกต้อง
นายไกรธวัช ทินโสม นายอำเภอปากเกร็ด กล่าวว่า ทางอำเภอยังไม่เกี่ยวข้องโดยตรง ทางอำเภอเข้าร่วมเนื่องจากมีการดำเนินการมูลนิธิในพื้นที่อำเภอปากเกร็ดจึงได้เดินทางร่วมกับทางสาธารณสุขเข้าร่วมตรวจสอบด้วยว่ามีการดำเนินการถูกต้องไหม ทางด้านกูกหมายต้องให้ทางกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการไป ซึ่งจะมีการเชิญตัวไปให้ปากคำที่ สถ.ปากเกร็ด สำหรับมูลนิธิมีการจดทะเบียนมานานแล้วแต่วัตถุประสงค์และการดำเนินการสอดคล้องกันหรือไม่ มีใบอนุญาตหรือไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนมากน้อยแค่ไหน