ความคืบหน้าคดีของสามเณรปลื้ม ที่ถูกฆ่าฝังดินใต้ฐานพระพุทธรูป แล้วโบกปูนทับ ภายในวัดวังตะวันตก จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งหลังเกิดเหตุผ่านมานานกว่า 5 เดือน จนตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวอดีตไวยาวัจกร มาสอบสวน
พันตำรวจเอก อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ได้เรียกตัวอดีตไวยาวัจกร วัดวังตะวันตก มาสอบสวน พร้อมเปรียบเทียบลายมือชื่อของพระเทพสิริโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัด ที่ลงนามในเอกสารต่างๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ กับลายมือชื่อบนเอกสารที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักของผู้ต้องหา หลังจากพบพิรุธความแตกต่างของลายมือชื่อในเอกสารหลายรายการ โดยเฉพาะหนังสือการมอบอำนาจให้นายเด่นชัย ในการทำนิติกรรมสัญญาต่างๆ รวมทั้งการนำเงินเข้าออกในบัญชีธนาคาร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือถึงธนาคารต่างๆ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางสาวปิยฉัตร และนายเด่นชัย รวมทั้งเส้นทางการเงินของอดีตเจ้าอาวาสด้วย
สำหรับ อดีตไวยาวัจกร เป็นพยานอีกหนึ่งปากที่มีความสำคัญทางคดี โดยให้การว่า ตนเองเป็นไวยาวัจกรของวัดมากว่า 24 ปี และได้ลาออกไปเมื่อปี2555 ซึ่งก่อนหน้านี้ทางวัดได้มีการจัดเก็บค่าเช่าที่ดิน / ค่าเช่าอาคารพาณิชย์ / ค่าเช่าแผงพระ / และค่าที่จอดรถอยู่แล้ว แต่ค่าเช่าไม่ได้สูงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ตนได้ลาออก ก็มีการแต่งตั้งไวยาวัจกรคนใหม่ แต่ทำหน้าที่ได้ไม่นานก็ลาออกไป แล้วกลุ่มของนางสาวปิยฉัตร และนายเด่นชัย ก็เข้ามาดูแลในเรื่องปรับเปลี่ยนเรียกเก็บค่าเช่าในอัตราที่สูงมาก ทำให้วัดเกิดปัญหากับผู้เช่าตั้งแต่นั้นมา จนถึงปัจจุบัน ส่วนอดีตเจ้าอาวาส ก็ถูกนางสาวปิยฉัตร กับพวก ถ่ายภาพเหตุการณ์บางอย่างไว้แบล็คเมล์ ทำให้นางสาวปิยฉัตร มีอิทธิพลเหนือเจ้าอาวาส จึงทำให้อดีตเจ้าอาวาส จำใจต้องวางเฉยต่อทุกเหตุการณ์ ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับมีปัญหาสุขภาพเข้ามาแทรกซ้อนด้วย