เกษตรกรชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันใน จ.ระนอง ใช้ช่วงเวลาว่างจากการทำสวน ออกตกกุ้งในแม่น้ำกระบุรีเป็นอาชีพเสริม พบมีรายได้ดีถึงวันละกว่า 1,000 บาท
2 มิ.ย.60 นายอิ้น อุชุภาพ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง เล่าให้ฟังถึงอาชีพเสริมของตนเองและเพื่อนบ้านร่วมอาชีพกว่า 35 ราย ว่า อาชีพหลักคือทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน หลังจากที่กรีดยางหรือตัดปาล์มเสร็จ ก็จะลงเรือหางยาวขนาดเล็กพร้อมอุปกรณ์เบ็ดตกกุ้ง เหยื่อตกกุ้ง บางรายก็เอาอาหารลงเรือไปนั่งกินด้วยขณะตกกุ้ง เพาะไม่ต้องเสียเวลาขึ้นมากินบนฝั่ง ซึ่งสถานที่พวกตนมาทำอาชีพเสริม คือ แม่น้ำกระบุรี โดยในจุดที่ใช้หากุ้งมีระยะทางความยาวประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งหาได้ตลอดแนวตลิ่งทั้งฝั่งไทยและฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
นายอิ้น บอกเพิ่มเติมว่า แม่น้ำแห่งนี้เป็นการบรรจบกันระหว่าน้ำเค็มจากทะเลอันดามันมาเจอกับน้ำจืดในแม่น้ำกระบุรี จึงเกิดเป็นน้ำกร่อยทำให้มีสารอาหารสำหรับสัตว์น้ำเป็นอย่างมาก กุ้งก้ามกรามที่แม่น้ำกระบุรีมีรสชาติหวานอร่อยไม่เค็ม เพราะเป็นผลจากน้ำกร่อย หนึ่งเดือนจะตกอยู่ได้ประมาณ 10 กว่าวัน แต่ละครั้งที่ออกมาตกก็จะได้กุ้งตั้งแต่ 1-8 กิโลกรัม ขนาดของกุ้งแบ่งขายออกเป็น 4 ขนาดคือ ขนาด กก.ละ 600 บาท, กก.ละ 500 บาท, กก.ละ 350 บาท และ กก.ละ 300 บาท ซึ่งหลายรายออกมาเป็นครอบครัวในเรือลำเดียวกันหรือแยกเรือเพื่อหาสถานที่ตกต่างกัน ในช่วงเย็นมีแม่ค้าจากตลาดมารอรับซื้อถึงฝั่ง หากวันไหนได้น้อยก็จะเก็บในถังน้ำแข็งไว้ก่อน แล้วค่อยนำออกมาขายรวมกันในวันต่อไป
อย่างไรก็ตาม โดยรวมที่ผ่านมาจะมีรายได้เสริมจากการออกตกกุ้งเกือบทุกรายวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ถ้าวันไหนโชคดีได้กุ้งขนาดใหญ่มากก็จะได้เงินมากกว่า 4,000 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากมาสัมผัสชีวิตการตกกุ้งในแม่น้ำกระบุรี สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ที่บริเวณจุดชมวิคอคอดกระส่วนที่แคบสุดของแหลมมลายู อ.กระบุรี หรือสอบถามได้ที่ อบต.มะมุ