จากกรณีที่มีการจัดงานแต่งงาน มงคลสมรสอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างเจ้าสาว คือ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และ เจ้าบ่าว คือ นาย บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แต่เมื่อถึงเวลาฤกษ์งามยามดี ทางฝ่ายเจ้าบ่าวกลับไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธี สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ฝ่าย เจ้าสาวเป็นอย่างมาก ขณะที่พ่อแม่เจ้าสาวได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เขาพนม เพื่อดำเนินคดีกับฝ่ายเจ้าบ่าวแล้วเมื่อวานนี้ เพราะนอกจากจะทำให้เสียหน้าแล้ว ยังเสียเงินลงทุนไปกว่า 3 แสนบาท
ความคืบหน้าวันนี้ (1 ต.ค.) ร.ต.อ.บุญส่ง ล่องวารี สว. (สอบสวน) สภ.เขาพนม เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้รับแจ้งข้อกล่าวหาในคดีพรากผู้เยาว์ ส่วนจะเป็นการข่มขืนกระทำชำเราหรือไม่นั้น หลังจากนี้จะต้องเรียกทางฝ่ายเจ้าสาวมาทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่าสมยอมหรือไม่ ส่วนคดีในทางแพ่ง ที่ทางฝ่ายเจ้าสาวจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายนั้น ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายพ่อแม่เจ้าสาวว่า จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายหรือไม่
ในขณะที่ นายบี (นามสมมุติ) เจ้าบ่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ได้ทราบข่าวแล้ว ว่าฝ่ายเจ้าสาวได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งตนและครอบครัวก็ยังคงทำมาหากินตามปกติ ไม่ได้หลบหนีไปไหน และพร้อมที่จะไปให้การในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล แต่ตอนนี้คงต้องรอหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ และเมื่อได้รับหมายแล้ว ตนก็พร้อมจะเข้าพบเจ้าหน้าที่ทันที และพร้อมจะรับโทษตามกฎหมายกำหนด ในความผิดเพราะความรัก แต่สุดท้ายทำความสมหวังให้ตนและคนรักไม่ได้ด้วยความยากจน
ส่วนเรื่องลูกที่กำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เจ้าบ่าวฯ กล่าวว่า ตนรักแฟนสาวและรักลูก ถ้ามีโอกาสได้แก้ปัญหาให้ได้อยู่ด้วยกันตนก็ยังยินดี และดีใจที่ได้อยู่กับลูกเมีย แต่ถ้าญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายภรรยาไม่ยอม ตนก็ต้องทำใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นสุดแล้วแต่โชคชะตา
ทางด้านนายสมพงศ์ อินศิริ อายุ 68 ปี พ่อฝ่ายเจ้าสาว กล่าวยืนยันว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีลูกเขย ตนและครอบครัวก็พร้อมที่จะเลี้ยงหลานที่จะเกิดจากลูกสาวอย่างเต็มที่ ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ในเมื่อฝ่ายเขาไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาได้ ก็ไม่เป็นไร ส่วนการที่จะเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายเจ้าบ่าวเท่าไหร่นั้น ก็ต้องปรึกษากับทนายและญาติอีกครั้ง เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า3แสนบาท ขณะที่ตัวเจ้าสาวยังคงเก็บตัวเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด