ญาติชายถูกระเบิดอาร์พีจีเสียชีวิตที่นครราชสีมา เผยปัจจุบันยังมีชาวบ้านจำนวนมากเข้าไปในเขตหวงห้ามของทหาร เพื่อขนเศษอาวุธสงครามออกมาขาย เตือนอาจสูญเสียเหมือนครอบครัวตน
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุชายวัย 54 ปี คือ นายสายทอง อาจสูงเนิน ชาวบ้านหลุมเงิน ม.5 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ถูกระเบิดอาร์พีจี เสียชีวิตคาที่ใต้ถุนบ้านของตนเอง ภายหลังจากลักลอบเข้าไปเก็บเศษอาวุธสงคราม ในเขตฝึกซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของทหารหน่วยหนึ่ง ในพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.ปักธงชัย กับ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค.60 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 มี.ค.60) บรรยากาศภายในบ้านเลขที่ 60/3 หมู่บ้านหลุมเงิน ม.5 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา บรรดาญาติพี่น้องของ นายสายทอง อาจสูงเนิน จัดเตรียมสถานที่และทำอาหารเพื่อทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์จำนวน 10 รูป อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต โดยศพของ นายสายทอง ได้ทำการฌาปนกิจไปแล้วเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (6 มี.ค.60) ขณะเดียวกันบริเวณบ้านเลขที่ 4 ม.5 ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุอยู่ข้าง ๆ กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังขึงเชือกห้ามเข้า แม้ว่าเจ้าหน้าที่หน่วย EOD จะเข้ามาเก็บกู้วัตถุระเบิดไปหมดแล้วก็ตาม
จากการสอบถาม นายสรศาสตร์ พาณิชภักดิ์มนชัย อายุ 49 ปี น้องชายของ นายสายทอง ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า พี่ชายของตนเองนั้นมีอาชีพเก็บของเก่าขายมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยมักจะชอบเข้าไปเก็บเศษอาวุธสงครามบนเขาลูกหนึ่งทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเขตซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของทหาร และเคยถูกระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว 2 ครั้งจนนิ้วมือขาดทั้ง 2 ข้าง เหลือนิ้วมือข้างละ 2 นิ้ว ถึงแม้ว่าญาติ ๆ จะพยามยามห้ามไว้แล้วว่าอย่าเข้าไปเก็บอาวุธสงครามในเขตหวงห้ามของทหารแต่ นายสายทอง ก็ไม่เชื่อฟัง ปัจจุบันยังคงเข้าไปเก็บเศษอาวุธสงครามมาขายอยู่ต่อเนื่อง ล่าสุดไปเก็บเอาอาวุธสงครามบริเวณเขาลำไย หรือที่ชาวบ้านเรียก “เขาบักอีแต้” ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ห่างจากหมู่บ้านหลุมเงินประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่งจะมีการซ้อมยิงกระสุนจริงเมื่อไม่นานมานี้ และได้นำมาทุบเพื่อที่จะนำเศษเหล็กและเศษทองแดงไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า จนกระทั่งถูกระเบิดเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว
นายสรศาสตร์ ยังบอกเพิ่มเติม ว่า ทุกวันนี้ยังมีชาวบ้านหลายคนเข้าไปเก็บอาวุธสงครามในเขตหวงห้ามของทหารมาขาย เนื่องจากเป็นโลหะที่มีน้ำหนักและได้ราคาดี จึงมีแรงจูงใจให้เข้าไปเก็บ แม้ว่าทหารจะปิดป้ายว่าเป็นเขตหวงห้ามแล้วก็ตาม ซึ่งทหารก็มีกำลังคนน้อยไม่สามารถออกตรวจภูเขาหลายลูก พื้นที่หลายพันไร่ได้อย่างทั่วถึงแน่นอน ดังนั้น ตนในฐานะเพิ่งสูญเสียพี่ชายฝากเตือนชาวบ้านว่า ถ้าจะห้ามกันไม่ได้ก็ขอให้เลือกเอาแต่ของที่มันระเบิดหรือเสียหายไปแล้ว อย่าเอาระเบิดที่ยังสมบูรณ์อยู่เพราะอาจจะเกิดอันตรายจนเสียชีวิตเหมือนพี่ชายของตนได้
ทางด้าน นายใหญ่ อาจสูงเนิน อายุ 86 ปี พ่อของ นายสายทอง ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนก็เคยห้ามลูกชายไว้แล้วแต่ก็ยังไม่เคยเชื่อฟังแถมยังโมโหใส่ตนด้วย จึงได้ปล่อยไปตามเลย ซึ่งวันเกิดเหตุ ตนเห็นลูกชายกำลังนำวัตถุระเบิดไปนั่งทุบอยู่ใต้ถุนบ้านเหมือนปกติทุกวันก็ไม่ได้คิดอะไร ต่อสักพักก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น จึงพากันวิ่งไปดู พบว่าลูกชายของตนเองถูกวัตถุระเบิดเสียชีวิตแล้ว ดังนั้นจึงฝากเตือนชาวบ้านว่าอย่าได้ประมาท เพราะวัตถุระเบิดที่ยังสมบูรณ์อยู่พร้อมที่จะทำงานได้ทุกเมื่อ
