ชาวสวนปาล์มน้ำมันใน จ.พังงา สร้างพื้นที่ว่างบริเวณร่องสวนปาล์มขุดบ่อดินรองพลาสติกเพาะพันธุ์กุ้งก้ามแดงหรือ “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” สายพันธุ์จากประเทศออสเตรเลียสร้างรายได้เพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง
8 มี.ค.60 น.ส.ธันย์บดี หนูเงิน หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดพังงา นำเกษตรกรสมาชิกกลุ่มชีวะเกษตรตำบลบางเตย อ.เมืองพังงา จ.พังงา เข้าศึกษาดูงานการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดงของ นายอกนิษฐ์ หลักแหลม อายุ 35 ปี เกษตรกรชาวเขาเฒ่า บ้านเลขที่ 72 ต.บางเตย อ.เมืองพังงา จ.พังงา ซึ่งปกติทำสวนปาล์มน้ำมันและจำหน่ายเนื้อไก่ส่งตลาดสดใน จ.ภูเก็ต จนกระทั่งได้เรียนรู้กุ้งก้ามแดง หรือที่บางคนเรียกว่า “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” เป็นสายพันธุ์จากประเทศออสเตรเลีย กุ้งก้ามแดงได้นำมาทดลองเลี้ยงในประเทศไทยโดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเล็งเห็นความต้องการของตลาด ทรงทดลองเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร และได้มอบหมายให้โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเชียงใหม่ กรมประมง หน่วยวิจัยประมงน้ำจืดบนพื้นที่สูงอินทนนท์ ทำการศึกษาทดลองเลี้ยง
ทั้งนี้ นายอกนิษฐ์ ได้ค้นคว้าหาวิธีการและขั้นตอนต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ต และได้สั่งพ่อ-แม่พันธุ์กุ้งก้ามแดงมาเริ่มจำนวน 6 คู่มาเลี้ยงไว้ดูเล่น ต่อมาเกิดลูกกุ้งจำนวน 5 คู่ ซึ่งแม่พันธุ์ตัวเดียวสามารถให้ลูกกุ้งแม่ละ 300-500 ตัว จึงได้ขยายบ่อและจำหน่ายเป็นรายได้เสริมภายในครอบครัว โดยขุดบ่อดินรองพลาสติกใส่น้ำไว้บริเวณร่องสวนปาล์มน้ำมัน ขนาดบ่อ กว้าง 2 x 4 เมตร ลึก 20 เซนติเมตร ใช้น้ำบ่อ พบว่าตลาดรับซื้อลูกกุ้งอายุ 10 วัน ราคาตัวละ 7 บาท ทำให้แต่ละเดือนสามารถสร้างรายได้เดือนละประมาณ 20,000 บาท เพิ่มมูลค่าจากพื้นที่ที่สวนปาล์มน้ำมันได้เพิ่มขึ้น สำหรับการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงหรือ “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” พบว่าเป็นกุ้งที่เลี้ยงง่ายใช้พื้นที่ไม่มาก มีอายุมากถึง 4 ปี ตัวโตเต็มที่จะมีน้ำหนักมากตัวละเกือบ 1 กิโลกรัม เนื้อมีรสชาติอร่อย เป็นที่ต้องการของโรงแรม ร้านอาหาร หรือภัตตาคารซึ่งให้ราคาดี
นายอกนิษฐ์ หลักแหลม อายุ 35 ปี เกษตรกรชาวเขาเฒ่า กล่าวว่า เริ่มแรกคิดว่าจะเลี้ยงไว้ดูเล่น แต่เมื่อแม่พันธุ์เกิดลูกทำให้ต้องขยายบ่อเลี้ยงจนเกิดเป็นธุรกิจ เนื่องจากความต้องการของตลาด ตนเองจึงตั้งเป็นฟาร์มเลี้ยง โดยใช้พื้นที่ในร่องสวนปาล์มน้ำมัน เป็นการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ การเลี้ยงกุ้งก้ามแดงไม่ใช้พื้นที่มากเหมือนสัตว์เศรษฐกิจอื่น และไม่ยุ่งยากในการดูแลมากนักเพียงการเลี้ยงในบ่อดินจะดีกว่าบ่อรองพลาสติก ใช้ท่อพีวีซี อาหารที่ได้จากธรรมชาติ (ตะไคร่น้ำที่อยู่ในบ่อ) ก็เพียงพอสำหรับกุ้งจำพวกนี้และไม่ได้ใช้สารเคมีแต่อย่างใด