มติที่ประชุมกรรมการบริหารสภาทนายความมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้จำหน่ายชื่อ “นายพิศิษฐ์ สัมมาเลิศ” ทนายความที่โกงเงินค่าชดเชยน้องบีมและมารดา ออกจากทะเบียนสภาทนายความฯ ส่งผลให้พ้นสภาพการเป็นทนายความทันที ในขณะที่วันนี้ ทนายอาสาฯ นำน้องบีมและแม่ ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากนายพิศิษฐ์ 3,400,000 บาท
วันนี้ (6ก.ค.60) ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เขตบางเขน มีการประชุมคณะกรรมการบริการสภาทนายความ เป็นวาระพิเศษเพื่อพิจารณากรณีคุณสมบัติของทนายความ คือ นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ อายุ 59 ปี ซึ่ง นางพรทิพย์ จันทรัตน์ มารดา ของ ด.ญ.ภัทรดา เเก้วผ่อง หรือ “น้องบีม” กล่าวหาว่าโกงเงินเยียวยาจากอุบัติรถยนต์จำนวน 5 ล้านบาท โดยที่ประชุมใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
ว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกฝ่ายบริหาร สภาทนายความฯ เปิดเผยถึงผลการประชุมว่า จากการตรวจสอบราชกิจจานุเบกษา ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้นายพิสิษฐ์ เป็นบุคคลล้มละลาย อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสภานายความ พ.ศ.2528 มาตรา 43 เมื่อความปรากฎแก่คณะกรรมการบริหารสภาทนายความ ว่าทนายความคนใดที่ขาดคุณสมบัติการเป็นทนายความ ให้คณะกรรมการสภาทนายความจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนทนายความ
ว่าที่ พ.ต.สมบัติ กล่าวเพิ่มเติมอีก ว่า ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิสิษฐ์ ถือว่าขาดคุณสมบัติตามมาตรา 35 (7) เพราะต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย คณะกรรมการจึงมีมติโดยเสียงข้างมาก เห็นชอบให้จำหน่ายชื่อ นายพิสิษฐ์ ออกจากทะเบียนทนายความ และจะปรากฎในประวัติทะเบียนทนายความ ว่าเป็นมติของคณะกรรมการให้จำหน่ายชื่อเนื่องจากเป็นบุคคลล้มละลายตามคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด โดยให้มีผลหลังจากที่คณะกรรมการได้ลงมติแล้ว
ว่าที่ พ.ต.สมบัติ กล่าวด้วยว่า จะนำมติแจ้งไปที่นายทะเบียนทนายความ และทำหนังสือแจ้งถึงนายพิสิษฐ์ เมื่อแจ้งหนังสือคำสั่งไปแล้วก็ถือว่าหมดสิทธิ์การเป็นทนายความต่อไป หลังจากนี้หากแสดงตนเป็นทนายความก็จะมีโทษตามพระราชบัญญติทนายความ ส่วนการพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ฉ้อโกงลูกความ ก็จะมีการสอบสวนลงโทษที่มีอยู่ 3 ระดับ คือ ภาคทัณฑ์, ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนดไม่เกิน 3 ปี และลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ ซึ่งเป็นมาตรการลงโทษที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามเมื่อ 2-3 วันก่อน เพื่อนของ นายพิสิษฐ์ ได้ติดต่อขอเข้ามาที่สภาทนายความฯ เพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนวันและเวลาเมื่อใด จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง