เยลลี่กัญชา ที่กำลังโด่งดังในกระแสสังคมขณะนี้ เป็นขนมอีกรูปแบบที่ออกมาเอาใจเหล่าสายเขียวทั้งหลาย แฝงภัยร้ายเพียบหากใช้ไม่ถูกต้อง
จากกรณีที่มีนักศึกษาสาวโพสต์เตือนภัย หลังถูกรุ่นพี่ในบริษัทเอกชนที่ตนฝึกงานอยู่ชวนไปรับประทานอาหาร และได้พบกับดาราอักษรย่อ ฟ. ซึ่งเจ้าตัวเล่าผ่านข้อความว่า ดาราคนดังกล่าวยื่นเยลลี่ให้กิน พร้อมพูดทีเล่นทีจริงว่า กัญชา ซึ่งเจ้าตัวไม่คิดว่าจะให้กัญชาจริงๆ หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกมึนหัว โลกหมุน หัวใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาจากอก
ก่อนจะมีการเปิดเผยในภายหลังว่า ดาราอักษรย่อ ฟ. คือ ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ จากการออกมายอมของเจ้าตัวว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ไม่ได้ยื่นอะไรให้นักศึกษาสาวคนดังกล่าวกิน และจะมีการฟ้องดำเนินคดีหากตนเองได้รับความเสียหาย
จากประเด็นที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมเริ่มจับตามอง และหันมาให้ความสนใจกับสิ่งที่นักศึกษาสาวคนดังกล่าวได้กินเข้าไปตามคำบอกเล่าของเธอ ว่าจะใช่ เยลลี่กัญชา หรือไม่
วันนี้ทีมข่าวสังคม Bright Today จะพาไปทำความรู้จักกับ เยลลี่กัญชา ว่าคืออะไร และหากรับประทานเข้าไป สารที่อยู่ในเยลลี่กัญชาจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกายบ้าง
เยลลี่กัญชาที่ถูกพบในท้องตลาดจะใช้ชื่อว่า CBD ถูกวางขายในราคาประมาณตั้งแต่ 400-3,000บาทโดยประมาณ มีลักษณะเป็นเยลลี่ทั่วไปมีตั้งแต่รูปสี่เหลี่ยม วงกลม และตุ๊กตาหมี ซึ่งเยลลี่ลักษณะดังกล่าวจะประกอบด้วยสาร THC (Tetrahydrocannabinol) มีปริมาณ ประมาณ 300 มิลลิกรัม
สาร THC ดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่ม “แคนนาบินอยด์” ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติต่อจิตประสาท ทำให้เกิดความผ่อนคลาย และเคลิบเคลิ้ม ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยลดอาการตึงเครียดได้
แต่ถ้าได้รับไปในปริมาณที่มากเกินอาจเป็นอันตราย ทั้งนี้ผลข้างเคียงของสาร THC จะทำให้มีอาการปากแห้ง กระหายน้ำ หัวใจเต้นเร็ว ตอบสนองช้า ตาแดง หรือความทรงจำลดลง
สาร THC ที่อยู่ในกลุ่ม “แคนนาบินอยด์” นั้นไม่ได้มีแต่เฉพาะในกัญชาเท่านั้น แต่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ด้วย ซึ่งจะทำงานก็ต่อเมื่อผสานเข้ากับ “ตัวรับแคนนาบินอยด์” ซึ่งถ้าร่างกายผลิตได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้คลายความกังวล ลดความเศร้า
ในกัญชา จะมี THC ประกอบอยู่ถึง 12% และมีสาร CBD เพียงไม่ถึง 0.30% เท่านั้น การสูบโดยตรงเพื่อรักษาโรคที่ CBD ทำได้นั้น ล้วนแต่ทำให้ร่างกายได้รับแต่ THC มากเกินไป
ผลเสียของสาร THC
- ตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโรคจิตเภท โดยเฉพาะสําหรับผู้ที่มี ปัจจัยเสี่ยงเช่น ผู้ที่มีปัญหาโรคจิตในครอบครัว หรือพันธุกรรม ผู้ป่วยโณคจิตจากสารเสพติดและแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะชลอการทํางานของสมองและทําให้สมองหยุดสร้างสารเคมีที่ทําให้รู้สึกดี และทําให้รู้สึกหงุดหงิดง่ายเวลาไม่ได้ใช้
- มีผลต่อการพัฒนาในด้านลบของสมองที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ กัญชาจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาสมองของเยาวชน
ขอบคุณข้อมูล กรมสุขภาพจิต
