หลอกทวงเงิน โปลิศนิวส์ รายงานว่า นางมาลี หรือ นางสาวสุภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.321/2558 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ข้อหา”ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” ผู้ต้องหาตามหมายจับของ (หลบหนีคดีนานเกือบ 10 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในอีก 18 วันข้างหน้า) ถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุม ได้บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทร ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ป.ป.ช.ชี้มูล 7 วัดดังมีเอี่ยวทุจริต เงินทอนวัด กว่า 27 ล้านบาท
ทั้งนี้ พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 นายสุรีย์ฯ ผู้เสียหาย ถูกหญิงคนร้ายโทรศัพท์มาหาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนคารกรุงเทพ แล้วแจ้งว่านายสุรีย์ฯ นำบัตรเครดิต ไปใช้และเป็นหนี้ธนาคาร จึงอ้างว่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ติดต่อไปสอบถามรายละเอียดกับนายสุรีย์ฯ
ซึ่งต่อมามีหญิงคนร้ายคนที่ 2 โทรศัพท์มาหานายสุรีย์ฯ แล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หลอกให้นายสุรีย์ฯ นำบัตรเอที่เอ็มไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม นายสุรีย์ฯ หลงเชื่อจึงโอนเงินให้กับคนร้าย รวมเป็นเงินจำนวน 988,276 บาท เป็นเหตุให้นายสุรีย์ฯ ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับคนร้าย ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับต่อศาลเพื่ออติดตามจับกุมผู้ต้องหา
จากการสืบสวนติดตาม พบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีอยู่ในเขตพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการจับกุม
ศรีสุวรรณ ร้องศาลยุติธรรมให้ระงับการเพิกถอนหมายจับ บอส อยู่วิทยา
จับชายขน ยาไอซ์ 600 ก.ก. ลงพื้นที่ภาคใต้ปนสินค้าชนิดอื่น
จากข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาจะหลอกให้ผู้เสียหาย อ้างว่าจะช่วยแก้ไขเรื่องหนี้บัตรเครดิตให้ โดยให้ไปทำธุรกรรมที่ตุ้ ATM ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อทำตาม โดยเลือกเมนูภาษาอังกฤษ และให้กดตามไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีคือ กดเงินออกจากบัญชีไปแล้ว
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เครดิตภาพ โปลิศนิวส์
