นักเรียนเลวร่ายยาวปัญหาการศึกษา หลัง ดร.พีระพงศ์ ลั่น ค่าสมัครสอบ 900บาทไม่แพงเลย กระแสสังคมเรียกร้องงดเก็บค่าสมัคร
กลายเป็นกระแสเรียกร้องไปทั่วโลกออไนลน์หลังจากที่ ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และ ดร.พีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้จัดการระบบทีแคส (TCAS) ร่วมกันแถลงข่าวทีแคส 65 ผ่านระบบซูม โดยมีการไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก Mytcas.com
โดยประเด็นหนึ่งที่กำลังถูกพูดถึงอยู่บนโลกออนไลน์อย่างหนักในขณะนี้คือ เรื่องของค่าสมัครสอบที่ต้องจ่ายถึง 900 บาทในเศรษฐกิจตอนนี้ โดย ประเด็นนี้ได้เริ่มมาจากการที่ ดร.พีระพงศ์ ได้กล่าวถึงการสมัครรอบที่ 3 ซึ่งผู้สมัครเลือกสมัครได้สูงสุด 10 อันดับ เรียงตามลำดับความชอบ โดยจ่ายค่าสมัครเริ่มจาก 150 บาท หากเลือกสูงสุด 10 อันดับ ต้องจ่ายค่าสมัคร 900 บาท จึงได้มีคำถามกลับไปว่าในสถานการณ์เช่นนี้ หากเลือกสูงสุด 10 อันดับ ต้องจ่าย 900 จะแพงเกินไปหรือไม่
ทางด้านของดร.พีระพงศ์ ได้ตอบว่า “ไม่แพงเลย ถูกมาก ไม่ต้องการให้น้องเลือก 10 อันดับซะด้วยซ้ำ ถ้าน้องวางแผนมาดี ตัดสินใจมาดี เตรียมตัวมาดี 1 2 3 จบแล้ว” ทำให้กลายเป็ฯที่วิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์
ซึ่งหลังจากเกิดประเด็นดราม่าดังกล่าวเฟซบุ๊กเพจ นักเรียนเลว ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยได้ระบุข้อความว่า “900 บาท อู้ย…ไม่แพงเลย ถูกมาก”
คำพูดนี้สมควรออกมาจากปากของ ดร.พีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้จัดการระบบ TCAS แล้วหรือ เราจะคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อมหาลัยด้วยการสอบมหาโหดไปทำไม ถ้าคนปากแจ๋วแบบนี้ก็สามารถมาคุมระบบที่กำหนดชะตาชีวิตของเด็กนับล้านได้แต่ทำไมเราต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนของรัฐบาลเพื่อมาจ่ายค่าเล่าเรียนให้รัฐบาล ทั้ง ๆ ที่มันควรเป็นสิทธิของเราตั้งแต่แรก?
ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน มาตรา 26 ว่าด้วยสิทธิในการศึกษา ระบุไว้ว่า การศึกษาระดับอุดมศึกษาจะต้องเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคสำหรับทุกคนบนพื้นฐานของคุณสมบัติความเหมาะสม หมายถึง นักเรียนทุกคนต้องมีสิทธิในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการกีดกันการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาด้วยฐานะทางการเงิน แต่การศึกษาไทย ณ ตอนนี้ กลับกลายเป็นการคัดเลือกว่าครอบครัวของเด็กคนไหนมีเงินมากพอก็จะผ่านด่านแรกเพื่อรับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
ค่าสมัครสอบที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและสภาพสังคม แสดงให้เห็นถึงการสั่งการจากหอคอยงาช้าง โดยไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่เป็นจริงในปัจจุบัน เป็นการใช้มาตรฐานของตัวเองชี้วัดว่าอะไรถูก-อะไรแพง ไม่เล็งเห็นถึงความเครียดและปัญหาของนักเรียนในช่วงโควิด ซ้ำยังยิ่งผลักภาระให้เด็กและครอบครัวต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากขึ้นไปอีก จุดมุ่งหมายของการศึกษา คือการเพิ่มโอกาสในการแสวงหาความรู้ให้กับผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาในด้านที่ตนมีความสนใจ แต่การศึกษาไทยกลับภูมิใจที่มีเด็กถูกผลักออกจากระบบการศึกษา ภูมิใจที่มีเด็กเข้าสู่การศึกษาระดับอุดมศึกษาได้เพียง 3 แสนคนจากนักเรียน 6 แสนคน ภูมิใจกับระบบการคัดเลือกที่ตัดโอกาสและเอารัดเอาเปรียบเด็กขนาดนี้ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย และไม่ควรถูกพูดออกมาจากปากของผู้บริหารทปอ. อย่างยิ่ง
พันธกิจของทปอ. ระบุไว้ว่า ทปอ. จะสร้างสังคมยุคใหม่ ให้เป็นสังคมความรู้และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว องค์กร และชุมชน สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ข้อความลวงโลกเอาไว้ประดับเว็บไซต์เฉย ๆ หรืออย่างไร ทำไมผู้บริหารทปอ.ถึงภูมิใจนักหนาที่มีเด็กหลุดออกจากการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพียงเพราะมีฐานะยากจน
โอกาสทางการศึกษาคือสิทธิมนุษยชน การกีดกันโอกาสทางการศึกษาจึงถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เด็กทุกคนควรมีโอกาสได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยปัจจัยด้านฐานะทางการเงินต้องไม่เป็นตัวแปรหลักในการศึกษา ผู้บริหารการศึกษาต้องไม่เห็นแก่เงินมากกว่าอนาคตของนักเรียน ต้องมองคนทุกคนเท่าเทียมกัน และต้องคำนึงถึงวิกฤตเศรษฐกิจในการออกนโยบายด้วย อย่ามองว่าเงินจำนวน 900 บาทเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็หาได้ในสถานการณ์ตอนนี้ ที่บางบ้านไม่มีแม้แต่อาหารที่จะกินในมื้อถัดไป ขอเชิญทปอ.ลงมาจากหอคอยงาช้าง ลงมาดูความเป็นจริงในโลกปัจจุบันด้วยเถิด
นอกจากนี้ทวิตเตอร์นักกิจกรรมทางการเมืองชื่อว่า บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการเรียกค่าสมัครสอบถึง 900 บาท โดยทวิตข้อความระบุว่า “ค่าสมัครสอบ 900 บาท ไม่ได้มีราคาถูก ในยามที่ผู้คนกำลังอดอยาก เงินทุกบาทล้วนสำคัญ ไม่ควรมีใคร ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ เพราะไม่มีเงิน บอลขอเสนอให้รัฐบาลงดเก็บค่าสมัคร #TCAS65 เพื่อช่วยเหลือนักเรียน และผู้ปกครอง ทำเพื่อประชาชนสักครั้ง ทำได้ และควรทำทันทีครับ”
ข่าวที่น่าสนใจ
โดนแล้ว! แบนเกมPOPYUT อวสานเกมจิ้มหน้านายกฯ ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
เรืองไกร โพสต์ภาพอวดเบนซ์หรูคันใหม่ พร้อมประกาศลาออกทุกตำแหน่งในสภา