วันที่ 22 ธันวาคม 2562 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว “หมอระวี มาศฉมาดล” ระบุว่า…
“เรื่องค่าโง่ทางด่วนว่า ใกล้จะจบแล้ว !!
เรื่อง “ค่าโง่ทางด่วน” ที่ผมได้เสนอเป็นญัตติด่วน เข้าสู่สภาฯ เพื่อตั้งกรรมาธิการศึกษาหาทางแก้ไข ซึ่งในครั้งนั้นได้ผ่านอุปสรรคมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขอให้ถอนญัตติออก
เมื่อผมยืนยันว่าไม่ถอน ก็มาเจอด่าน ถ้าไม่ถอนญัตติออกจะโหวตไม่ให้มีการตั้งกรรมาธิการ เมื่อผมล็อบบี้ สส.ส่วนข้างมากให้เห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการ ก็มาเจอด่านจะให้ตั้งกรรมาธิการก็ได้ แต่ผมต้องไม่เป็นประธานกรรมาธิการ เมื่อผมยอมที่จะไม่เป็นประธานกรรมาธิการ จึงสามารถตั้งกรรมาธิการได้
เมื่อกรรมาธิการเริ่มศึกษาก็เจอการสกัดทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผยแต่ในที่สุดก็สามารถจบลงได้ โดยเสียงโหวตในกรรมาธิการเสียงแตก ความเห็นมีทั้งให้สู้สุดๆ , แบบกลาง ๆและแบบเห็นด้วยกับการต่อสัมปทานทางด่วน 30 ปี แล้วแต่จุดยืนของแต่ละคน จนมีการอภิปรายว่า กรรมาธิการบางคน ถูกเคลียร์กลางสภา จบด้วย การทะเลาะของ 2 สส.
หลังจากญัตตินี้ผ่านสภามา 2-3 เดือนแล้ว มี สส. ในสภา และคนที่รู้จักนอกสภา จำนวนมาก ถามผมว่าเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว
ผมทราบข่าวว่า คณะทำงานของกระทรวงคมนาคมที่ปลัดกระทรวงเป็นประธาน ได้ศึกษาจนได้ข้อสรุปแล้ว จะนำเสนอ รัฐมนตรีคมนาคมในวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.นี้ และคาดว่าวันอังคารที่ 24 ธ.ค.คงจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป
แนวทางออก ในเรื่องค่าโง่ทางด่วนนี้คาดว่าจะมีทางออก 3 ทางคือ
- ยุติการต่อสัมปทานทางด่วนให้เอกชน พร้อมการสู้คดีในศาลทุกคดี
- ต่อสัมปทาน 15 ปีแรกกับการยุติคดี ส่วนเรื่องการสร้าง Double deck กทพ.ค่อยพิจารณาใหม่
- ต่อสัมปทาน 30 ปีตามที่บอร์ด กทพ. และเอกชนเสนอ
- แนวทางที่ดีที่สุดตามความเห็นผมคือแนวทางที่ 1 ที่อัยการหลายคน ยืนยันว่าน่าจะสู้คดีได้และต้องการสู้คดีให้ถึงที่สุด
** แนวทางที่พอรับได้คือแนวทางที่ 2 ที่ ต่ออายุสัมปทานให้เอกชน 15 ปี แต่แนวทางนี้จะพอรับได้ต้องมีเงื่อนไขตามมาอย่างน้อย 4 ข้อด้วยคือ
- รัฐมนตรีต้องดูประเด็นทางกฎหมายด้วยว่าสามารถทำได้หรือไม่ควรให้ กฤษฎีกาช่วยดูให้รอบคอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี
- เอกชนต้องยอมยุติคดีทั้งหมด
- ประเด็นการขึ้นค่าทางด่วน 10 บาททุก 10 ปีควรจะลดเหลือ 5 บาททุก 10 ปี
- ให้กทพ. เร่งศึกษาเรื่องการลดการ ติดขัดการจราจรบนทางด่วนโดยเร็วเช่นการสร้าง Double deck ,การขยายเลนทางด่วนบางจุด, การลดด่านเก็บเงิน ,การใช้ easy pass มากขึ้นฯลฯ
*** แนวทางที่ไม่ควรทำคือการต่อสัมปทาน 30 ปีตามที่ บอร์ด กทพ.และเอกชนเสนอตั้งแต่ต้น
ผมเชื่อมั่นในจุดยืนของคุณศักดิ์สยาม รมต.คมนาคม ( ที่เคยยืนยันกับผมตอนที่ผมเสนอญัตตินี้เข้าสภาก่อนที่จะเป็นรมต. คมนาคมว่าเห็นด้วยกับผมในการออกมาต่อสู้เรื่องค่าโง่ทางด่วน) ว่า น่าจะไม่เลือกแนวทางที่3แน่นอน
ผมคาดว่า มติ ครม. น่าจะเลือกแนวทางต่ออายุ 15 ปี แม้ว่าจะไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุดแต่ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่พอรับได้ซึ่งอย่างน้อย ผมได้ทำหน้าที่ สส.ในสภาในการลดค่าโง่ไม่ได้ทั้งหมด ก็ได้ส่วนหนึ่งก็ยังดี
อย่างไรก็ตามถ้า รมต. คมนาคม เลือกแนวทางต่ออายุ 15 ปีต้องพิจารณารายละเอียดประกอบ 4 ข้อที่ผมเสนอมาด้วยนะครับ โดยเฉพาะประเด็นทางกฎหมายว่า สามารถทำตามแนวทางนี้ได้หรือไม่ ถ้ามีการร้องต่อศาลปกครอง จะได้ไม่ตกม้าตาย”