ศบค. เผยเตรียม คลายล็อกนักเรียน เรียนตามปกติ ไม่ต้องสลับวันเรียน เนื่องจากมีผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็ก ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
28 ก.ค. 63 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า จากข้อมูล เด็กเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ ในประเทศมีเพียงแค่ 1-6% ช่วงอายุ 0 – 9 ปี พบเพียงแค่ 1.9% หรือ 62 ราย ตั้งแต่เริ่มมีการติดเชื้อมา อายุ 10-19 ปี มี 126 ราย คิดเป็น 3.87% และไม่เคยมีรายงานพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเลย
ปัจจุบันมี 4,528 โรงเรียน ที่ต้องใช้วิธีการสลับเวลาเรียน สลับวันเรียน เนื่องจากสถานที่คับแคบและเด็กมีจำนวนมากกว่าห้องเรียน มีผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็ก ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงทรัพยากร และผลกระทบด้านโภชนาการ จึงมีการประชุมร่วมกันของ สธ. และ ศธ. ถึงข้อพิจารณาการผ่อนคลายนี้ให้นักเรียนไปเรียนได้ตามปกติ โดยมีมาตรการเสริม มีการกำกับโดยสถานศึกษาและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ผ่านการดูแลจากแต่ละหน่วยงานเป็นลำดับ สอดคล้องกับเรื่องประเด็นที่ 3 มีกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูการตรวจประเมินและติดตามผลหลังการเปิดภาคเรียน และแนวปฏิบัติของสถานการณ์การเสี่ยงต่อการติดโรคในมาตรการผ่อนคลายของสถานศึกษา พบว่าสถานศึกษามีมาตรการความปลอดภัยจากการลดการแพร่เชื้อโรคถึง 99.47% มีไม่ครบเพียงแค่ 0.53% หรือ 132 แห่ง ก็ได้มีการชี้แนะให้ปรับปรุงให้ครบ จากโรงเรียน 25,140 แห่งที่เข้าไปสำรวจ พบรายงานเด็กป่วยอยู่ที่ 687 คน มีรายงานป่วยเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ แต่ไม่ใช่โควิด-19