พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่สื่อนำเสนอข่าว ตำรวจแฉตำรวจ โดยตำรวจทางหลวง รีดเงินเมียตำรวจชุดสืบสวน สภ.จุฬาภรณ์ 10,000 บาท แล้วปล่อยตัวนั้น
ได้รับรายงานจาก ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 63 ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของ นายตำรวจ ฝ่ายสืบสวน ยศ ร.ต.ต. สังกัด สภ.จุฬาภรณ์ จว.นครศรีธรรมราช รายหนึ่ง ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด ส.ทล.4 กก.7 จำนวน 4 นาย ในความผิด ฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมที่จะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เหตุเกิด บนถนนสายเอเชีย 41 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จว.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2563
ซึ่งในการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพฤติการณ์กระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งเอกสารสอบสวนและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง ป.ป.ท.เขต 8 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ประกอบกับ วันนี้(26 มิ.ย.63) พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ทั้งในส่วนกรณีที่กล่าวหาตำรวจทางหลวงรับเงินจากทางผู้เสียหายและกรณีที่ นายตำรวจ ฝ่ายสืบสวน ยศ ร.ต.ต. ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เจรจาเรียกรับเงินและนำภาพคลิปไปร้องเรียนสื่อมวลชน โดยให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 7 วัน
ในส่วนของการดำเนินการทางวินัยนั้น เบื้องต้น พ.ต.อ.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ ผกก.7 บก.ทล ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกิดขึ้น พร้อมมีคำสั่งให้ ตำรวจทั้ง 4 นายที่ถูกกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่อำนวยการ ประจำ ส.ทล.4 กก.7 โดยให้งดปฏิบัติหน้าที่ที่พบปะกับประชาชนและเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทั้งสองฝ่าย
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว ให้ความเป็นธรรม เน้นย้ำ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เร่งคลี่คลายข้อสงสัยและให้ความกระจ่างแก่สังคม หากพบว่าตำรวจกระทำความผิดตามที่กล่าวอ้างจริง ให้เร่งดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ตลอดจน พิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ฐานปล่อยปละละเลย ไม่สอดส่องดูแลความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งได้เน้นย้ำตำรวจมาโดยตลอด ให้ทำงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม เป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่เป็นโจร ใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงรังแกประชาชน