“โรงพยาบาลศิริราช” จัดงานศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์ พร้อมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 39 รูป เพื่อน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” ปีที่ 3 ตามรอยพ่อ เพื่อบำเพ็ญกุศลและน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โดยในช่วงเช้า ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณาจารย์ แพทย์ พยาบาล บุคลากร นักศึกษา และประชาชนจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 39 รูป ตั้งแต่แยกศิริราช ถึงลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
จากนั้น พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป พร้อมด้วยพระสงฆ์ 39 รูป สวดพระพุทธมนต์และสวดสดับปกรณ์ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ต่อมา ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ นำถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมทั้งนํากล่าวสดุดี และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที
โดยศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ นํากล่าวสดุดีตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี แห่งการครองราชย์ ไม่เคยมีวันใดที่พระองค์จะว่างเว้นจากการทรงงาน และไม่เคยมีวันใดที่พระองค์จะไม่คำนึงถึงประโยชน์สุขของคนไทย ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล
พระผู้ทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน ได้พระราชทานแนวพระราชดำริด้านต่างๆ และทรงวางแนวทางต่างๆ ไว้เป็นรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาประเทศชาติ ให้คนไทยอยู่ดี กินดี มีความสุขกันถ้วนหน้า และยั่งยืนจนถึงทุกวันนี้ ดังจะเห็นได้จากโครงการพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ ก่อให้เกิดคุณอนันต์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง พระองค์ทรงเป็น “ต้นแบบแห่งความดี” คนไทยโชคดีที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย นับเป็นบุญยิ่งใหญ่ที่ได้เกิดอยู่ใต้ร่มพระบารมีแห่งราชวงศ์จักรี
“ทุกวันที่ 13 ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคต กลายเป็นวันที่มีความหมายต่อพวกเราทุกคน ขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวไทยที่คิดถึงพระองค์ ถือโอกาสอย่างน้อยในหนึ่งวันนี้ ย้อนนึกถึงพระบรมราโชวาทหรือสิ่งที่พระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจ สิ่งที่เราตั้งใจจะสานต่อตามรอยธรรมดีที่พ่อทำ มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต นอกจากจะสร้างประโยชน์สุขส่วนตน ย่อมช่วยเสริมสร้างประเทศชาติให้เจริญขึ้นอย่างยั่งยืน” ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว