สมุทรสาคร — (19 ธ.ค. 63) หมอธีระ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “…ไขปัญหามหาชัย สมุทรสาคร…” โดยระบุว่า
- ตอนนี้ 13 ราย มีทั้งสมาชิกในครอบครัว ลูกจ้างต่างด้าว คนอยู่อาศัยใกล้ตลาด คนมาซื้อของ ฯลฯ มีทั้งวงในวงนอก ตกลงปลอดภัยไหม?
ตอบ: เด็กเล็กๆ ก็ตอบได้ครับว่า ไม่ปลอดภัย มีความเสี่ยงสูง เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าจะมีคนติดเชื้อไปมากน้อยเพียงใด และต้นตอจะมาจากที่ใด
หากดูตามสถานการณ์แล้ว เราไม่มีทางทราบได้เลยว่า
ทั้งหมดนั้นเป็นการเกิดจากเหตุเดียวกัน หรือต่างกรรมต่างวาระ แต่มาตรวจพบช่วงนี้เพราะจัดมาตรวจจากเหตุเคส 67 ปี ต่อให้ทำการสอบสวนโรค เพื่อซักประวัติและหาหลักฐานมาประกอบ ก็ยากที่จะสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นการย้อนอดีต จะมีปัญหาการจำรายละเอียด
ถ้าดูจากบทเรียนการระบาดซ้ำทั่วโลก ส่วนใหญ่มักหาต้นตอไม่ได้ครับ และถึงควานหาเต็มที่ ก็จะได้หลายเหตุหลายวาระ มักจะนำมาฟันธงไม่ได้
ดังนั้นทางที่เหมาะสมที่สุดคือ
หนึ่ง ให้กระบวนการสอบสวนดำเนินไปเต็มที่เท่าที่จะทำได้ โดยเผื่อใจไว้ล่วงหน้าว่าจะสรุปไม่ได้
สอง มุ่งมั่นจัดการปัญหาปัจจุบันคือ การแพร่กระจายเชื้อในชุมชนดังที่เห็นว่ามีทั้งวงในวงนอก โดย”ทำการตรวจทุกคนในพื้นที่” ดังที่ประเทศจีนได้ทำมาให้เห็นเป็นตัวอย่าง เพราะครั้งนี้ของเราคล้ายกรณีอู่ฮั่นอย่างมาก หากตรวจทุกคนอย่างทั่วถึงก็จะทราบว่า ตอนนี้ติดไปมากน้อยเพียงใด เพราะต้นตออาจใช่หรือไม่ใช่เคส 67 ปี หรืออาจใช่หรือไม่ใช่แรงงานต่างด้าวของเคส 67 ปี แต่อาจเป็นเหตุอื่น ไม่ว่าจะเป็นต่างด้าวคนอื่นๆ ในชุมชน หรือมีการติดเชื้อในคนที่อาศัยในชุมชนอยู่แล้วก็เป็นได้
สาม ประกาศพื้นที่เสี่ยงระดับจังหวัด เพื่อให้คนในพื้นที่ และประชาชนไทยได้ทราบสถานการณ์ และขอความร่วมมือให้ลด ละ เลี่ยง การเดินทางเข้าออกพื้นที่โดยไม่จำเป็น
สี่ สั่งจำกัดการประกอบกิจการที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยอนุญาตให้เปิดได้เฉพาะกิจการที่นายจ้างและลูกจ้างได้รับการตรวจคัดกรองโควิดแล้วเท่านั้น
ห้า แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้งดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานแสดงมหรสพต่างๆ รวมถึงคริสตมาสและเค้าท์ดาวน์
และสุดท้าย ซึ่งทางพื้นที่ได้ประกาศไปแล้วคือ การให้ใส่หน้ากาก 100% เวลาออกนอกบ้าน
- วาทกรรมว่า “กินอาหารทะเลได้ตามปกติ” นั้น เชื่อได้มากน้อยเพียงใด?
ตอบ: ข้อมูลทางการแพทย์พบว่า มีหลายงานวิจัยที่รายงานการตรวจพบเชื้อไวรัสโควิดที่ปนเปื้อนในอาหารที่แช่เย็น หรือแช่แข็ง เช่น รายงานจากประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลา อาหารทะเลอื่นๆ ปีกไก่ เนื้อ
โดยมีการวิจัยพบว่าไวรัสสามารถอยู่ได้ในอุณหภูมิเย็น ไม่ว่าจะเป็นแบบตู้เย็น 4 องศา ไปจนถึง -80 องศาเซลเซียส และสามารถอยู่ได้นานถึง 14-21 วันเลยทีเดียว
ด้วยความรู้ข้างต้น จึงมีโอกาสที่วัตถุดิบที่แช่เย็น หรือแช่แข็ง ที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสหากมาจากแหล่งที่มีการระบาดอยู่นั่น อาจทำให้ผู้ที่จัดการกับวัตถุดิบ หรือคนทั่วไปที่ซื้อไปปรุงอาหารรับประทาน จะสัมผัสกับไวรัสที่ปนเปื้อนได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง เช่น การใส่ถุงมือและหน้ากากระหว่างจัดการกับวัตถุดิบเหล่านั้น ไม่เอาจมูกไปสูดดมใกล้ๆ ไม่เอามือที่เปื้อนไปล้วงแคะแกะเกาบริเวณใบหน้า ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการพิสูจน์ชัดเจนว่าการปนเปื้อนในอาหารเหล่านั้นจะทำให้ติดเชื้อได้ แต่ก็ไม่ควรประมาท
ดังนั้น วาทกรรมเรื่องกินอาหารทะเลได้ตามปกตินั้น ตามเนื้อผ้าแล้วจึงไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ที่พบว่ามีการระบาดอยู่ในขณะนี้
สิ่งที่เหมาะสมคือ
หนึ่ง การซื้อขายวัตถุดิบอาหารทะเลนั้นก็ยังทำได้ แต่ต้องระมัดระวังทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
สอง การกินอาหารทะเลในช่วงเวลานี้ “ควรรับประทานอาหารทะเลที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น” ไม่แนะนำให้กินแบบดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะหากมีการปนเปื้อนของไวรัส ก็จะทำให้มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อได้
สาม ในกลุ่มผู้ที่ประกอบกิจการค้าขายอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป หรือของสดเพื่อขายต่อ โดยรับจากพื้นที่ที่ยังมีการระบาด ก็ขอให้มีความเคร่งครัดเรื่องความสะอาด เน้นการป้องกันตัวของผู้ประกอบการและลูกจ้างด้วย กันไว้ดีกว่าแก้ครับ
- ถามจริงเหอะ คริสตมาสกับปีใหม่ จะจัดงานได้ไหม?
ตอบ: ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าจัดได้แต่ควรเป็นงานเล็กๆ
และต้องทราบว่า สถานการณ์โดยรวมมีความเสี่ยงต่อการระบาด เพราะไม่ทราบจริงๆ ว่ามีคนติดเชื้อกระจายไปไหนบ้างไหม ดังนั้นหากจะจัด ก็ต้องป้องกันตัวมากๆ
ถ้าผมไปงาน คงไปแป๊บเดียว ใส่หน้ากากเสมอ และล้างมือเป็นนิจ หากจะกินและดื่ม คงกินไม่เกิน 15 นาที และกินห่างจากคนอื่นๆ ในงาน
ส่วนสถานที่เสี่ยงมากๆ ที่มีคนแออัด เช่น คอนเสิร์ต ผับ บาร์ ฯลฯ ตอบได้ทันทีว่า “ไม่ไป” ครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้รักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ
เครดิตภาพ pr.moph.go.th
ระส่ำหนัก! โควิดสมุทรสาคร ผู้ว่าฯประกาศ ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
