กรณีงาน เก็บผลไม้ป่า รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อมีแรงงานไทยทั้งชายหญิงกว่าร้อยคน ตัดสินใจเดินทางไป เก็บผลไม้ป่า ที่ประเทศ สวีเดน และ ฟินแลนด์ โดยไม่กลัวการแพร่ระบาดของ โควิด19 ที่ยังคงมีอยู่ในหลายประเทศในทวีปยุโรป
รวม ผลไม้ และ อาหารสีดำ ทานแล้วดีต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ฤดู เก็บผลไม้ป่า สวีเดน-ฟินแลนด์ อยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนมิถุนายน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางานได้ จ้งระงับการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า และการเดินทางไปทำงานในตำแหน่งคนงานตามฤดูกาล (Seasonal Work) และคนงานสนับสนุน (Staff) ในฟินแลนด์และสวีเดน ฤดูกาลปี 2020 หากพบเห็นว่ามีสาย/นายหน้า หรือผู้ใด โฆษณา ชักชวน หรือรับสมัครคนหางานไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในประเทศดังกล่าว ขอให้แจ้งกรมการจัดหางานทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
แต่ล่าสุด เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด19 ในประเทศ สวีเดน และ ฟินแลนด์ เริ่มคลี่คลาย คนไทยจำนวนมากจึงตัดสินใจเดินทางไปทำงานใน ตำแหน่งคนงานตามฤดูกาล (Seasonal Work) และคนงานสนับสนุน (Staff)
ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีคนไทยจำนวนประมาณ 6,000 – 8,000 บาท เดินทางไป เก็บผลไม้ป่า ในประเทศสแกนดิเนเวีย ซึ่งบริษัทนายจ้างไทยเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายการเดินทาง จัดหาอาหารและที่พักอย่างเหมาะสม รวมถึงการประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ ตลอดฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงแรงงานมีการแจ้งเตือนทุกปีว่า ผู้ที่จะไปทำงาน เก็บผลไม้ป่า ต้องตรวจสอบบริษัทและนายจ้างให้ดี เนื่องจากมีการหลอกหลวงเกี่ยวกับเงื่อนไขในการทำงานเป็นจำนวนมาก อาทิ ไม่ได้ค่าจ้าง ความเป็นอยู่ยากลำบาก ถูกลอยแพ และ ถูกจับจากการทำผิดกฏหมาย
อนึ่ง ในประเทศ สวีเดน-ฟินแลนด์ ผลไม้ป่า อย่าง ผลเบอร์รี่ป่า ไม่ว่าจะเป็น บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ เชอรี่ เป็นออกผลออกตามธรรมชาติ ซึ่งในทางกฏหมายคือสมบัติสาธารณะ สามารถเก็บได้ฟรี แต่ผลไม้ที่มีราคาที่บริษัทจะจ้างแรงานคนไทยไปเก็บคือ Carlberry , Blueberry และ Lingonberry โดยแรงงานแต่ละคนจะเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานคนละ 80000 – 100000 บาท และอาจได้ค่าตอบแทนประมาณ 170,000 – 200,000 บาท
ทุเรียน ผลไม้ที่ถูกส่งออกเดินทางจากไทยสู่จีน กับแนวโน้มการค้าในปีนี้