วัคซีนโควิด — หมอยง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก นพ.ยง ภู่วรวรรณ ระบุถึงกรณี วัคซีนโควิด-19 ผลการศึกษาประสิทธิภาพทำไมจึงต่างกัน โดยอธิบายว่า
“ผลของประสิทธิภาพวัคซีน (Vaccine Efficacy) ในการศึกษาต่างสถานที่ ต่างกลุ่ม ประสิทธิผลทำไมไม่เท่ากันเพราะการประเมินประสิทธิภาพจะประเมินอะไร ป้องกันการติดเชื้อ หรือ ป้องกันการเกิดโรค (ติดเชื้อได้แต่ไม่เป็นโรค) เป็นโรคแต่ไม่รุนแรง เช่นไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่เสียชีวิต ประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 จะประเมินตรงไหนต้องชี้แจงให้ละเอียด ไม่ใช่บอกแต่ตัวเลข
ประเด็นที่สอง ที่มีการประเมินผลวัคซีนเดียวกันทำในสถานที่และประชากรต่างกัน ขึ้นอยู่กับกลุ่มประชากรที่ศึกษา ทำให้ผลต่างกัน เช่นการศึกษาวัคซีน HIV ในประเทศไทยได้ประสิทธิภาพป้องกันกันโรคได้ 30% ศึกษาที่แอฟริกาได้ 0% เพราะแอฟริกามีความเสี่ยงสูงกว่าไทย ในทำนองเดียวกัน การศึกษาวัคซีนท้องเสียโรตาในแอฟริกา ประเทศมาลี ได้ประสิทธิภาพ 50% แต่ใช้วัคซีนเดียวกันทำในยุโรปได้ประสิทธิภาพสูง 83-90% เพราะแอฟริกาเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคและการติดโรคได้สูงกว่าในยุโรป
ทำนองเดียวกันการศึกษาโควิดวัคซีน ถ้าทำในกลุ่มเสี่ยงสูงเช่น บุคลากรทางการแพทย์ย่อมมีประสิทธิภาพป้องกันในการศึกษาต่ำกว่าการศึกษาในประชากรทั่วไปที่มีความเสี่ยงต่ำ การศึกษาของวัคซีนของจีนประสิทธิภาพที่ประเทศจีนประกาศ 79% โดยรวม ประเทศตุรกีประกาศผลประชากรทั่วไปได้ 91% และประเทศอินโดนีเซียได้ 65% ตัวเลขต่างกันคือ บราซิลในบุคลากรทางการแพทย์ ได้ 50.4%
ดังนั้นประสิทธิภาพของวัคซีนในแต่ละตัว การแปลผลจะต้องดูองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงตัวเลข”

เครดิตภาพ xinhuathai
นักแบดติดโควิด ! รายการ แบดมินตัน 2020 ที่ประเทศไทย
โควิด19 ในเด็กอันตราย! แนะผู้ปกครองหากเด็กมีอาการข้างเคียงรีบพาหาหมอ
เปิดชื่อห้าง!! กทม. ไทม์ไลน์นศ.ชาย ติด โควิด19 เดินทางหลายแห่ง