ป.ป.ส. และ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน
28 ก.ย.60 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ปรีชา สุนทรานันท์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ม.มหิดล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยมีนายนิยม เติมศรีสุข รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นพยานร่วมลงนาม ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา เครือข่ายภาคประชาชน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านวิชาการ แนวทางดำเนินงาน การวิจัยประเมินผล รวมถึงการสร้างการรับรู้ในสังคม ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ อาคาร 2 ชั้น 3 สำนักงาน ป.ป.ส.
ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการป้องกัน แก้ไข ควบคุม และขจัดให้เบาบางลง ภายใต้การขับเคลื่อนงานควบคู่กันทั้งทาง ด้านป้องกัน ด้านบำบัดรักษา และด้านปราบปราม เจตนารมณ์เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และยั่งยืน ปัจจุบันกลุ่มผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีแนวโน้มเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนมากขึ้น ทั้งที่อยู่ในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา ถึงแม้โดยเฉลี่ยผู้เสพจะพบมากที่สุดในช่วงอายุ 15 – 24 ปี แต่แนวโน้มผู้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในแต่ละปีกลับมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลายประการ ทั้งในเรื่องพัฒนาการตามช่วงวัย ผนวกกับสภาพปัญหาทางสังคม สิ่งแวดล้อมที่มีความสุ่มเสี่ยง เทคโนโลยีที่ทันสมัย การสื่อสารที่ไร้พรมแดน ฯลฯ รวมถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมต่าง ๆ ที่ยังคงเป็นเงื่อนไขสำคัญผลักดันให้เด็กและเยาวชนตกเป็นกลุ่มเสี่ยงและเข้าสู่วงจรปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชน จึงจำเป็นต้องป้องกันและแก้ไขปัญหาควบคู่ไปกับการปลูกฝังทักษะให้เด็กและเยาวชนเกิดภูมิคุ้มกันในตน ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละช่วงวัย ในการนี้ เพื่อให้เกิดการควบคุมสภาพปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรกสุด คือ การพัฒนาระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้ในเชิงวิชาการ การพัฒนารูปแบบ วิธีการ เครื่องมือ สื่อการเรียนรู้ รวมถึงงานวิจัยและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ โดยยึดถือหลักการตามนโยบายยุทธศาสตร์แนวทางการขับเคลื่อนงานด้านยาเสพติดของประเทศชาติเป็นหลัก
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้หารือร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหน่วยวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนของประเทศ จัดทำบันทึกข้อตกลง MOU ฉบับนี้ขึ้นมา นับเป็นการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชนของประเทศให้มีการพัฒนาบนฐานวิชาการ แล้วนำไปสู่การนำไปใช้เป็นรูปธรรมเชิงประจักษ์ โดยจะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนานโยบายไปสู่การปฏิบัติ มุ่งสู่เป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กและเยาวชน ห่างไกลจากยาเสพติด เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคตต่อไป
