ภรรยาหนุ่มแรงงานชาวบุรีรัมย์ ที่หนีทัวร์ไปทำงานในเกาหลีเพื่อหวังให้ครอบครัวมีฐานะมั่นคงแต่ถูกทารุณกดขี่ไม่ให้ค่าแรง จนเครียดผูกคอตายแบบไร้ญาติยังต่างแดนเมื่อ 3 เดือนก่อน เผยยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียเสาหลัก เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของแรงงานดูแลด้านสวัสดิการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
(1 พ.ค.61) น.ส.ออม วงศ์จันทร์ ภรรยาของ นายวันสิน บุญกลาง แรงงานชาว ต.ห้วยสำราญ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่เคยถูกนายหน้าชักชวนทางเฟซบุ๊กให้ไปทำงานเป็นแรงงานเถื่อนที่ประเทศเกาหลี จนยอมหนีทัวร์ไปทำงานแบบผิดกฎหมาย เพื่อหวังให้ครอบครัวมีฐานะที่มั่นคง แต่กลับถูกนายจ้างที่เกาหลีทารุณกดขี่และเบี้ยวค่าแรง จนเกิดความเครียดและตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตที่ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ออกมาเปิดเผยว่า แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 3 เดือนแล้วแต่ก็ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวไป ทำให้ตนเองต้องเผชิญชะตากรรมเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนตามลำพัง ซ้ำยังต้องแบกรับภาระหนี้สินที่กู้ยืมเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเกาหลีอีกกว่า 2 แสนบาทด้วย ทุกวันนี้กลับมาทำอาชีพเลี้ยงจิ้งหรีดหาเลี้ยงลูกมีรายได้เพียงเดือน 6-7 พันบาทเท่านั้น ดังนั้น ในฐานะที่ตนเองเป็นแรงงานคนหนึ่งเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติปีนี้ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเล็งเห็นความสำคัญของแรงงาน ทั้งเรื่องอัตราค่าจ้างของแรงงาน ทั้งควรควบคุมราคาสินค้าไม่ให้แพงเกินความเป็นจริงเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับแรงงาน พร้อมทั้งดูแลเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ให้กับแรงงานและครอบครัวให้มีความมั่นคงในอาชีพและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อลดปัญหาการดิ้นรนไปขายแรงงานต่างประเทศที่มีค่าแรงงานที่สูงกว่า แต่อาจจะเสี่ยงกับอันตรายหลายด้าน
ทั้งนี้ น.ส.ออม ยังได้ฝากเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเองเป็นอุทาหรณ์แก่แรงงานไทยที่คิดจะไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าได้ค่าแรงที่สูงกว่าในบ้านเราทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ควรจะพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบโดยเฉพาะคนที่คิดจะไปแบบผิดกฎหมาย อาจจะไม่เป็นตามที่คาดหวังเหมือนเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสามีของตนเอง