ไล่ตะครุ
ที่วัดบ้านแวง หมู่ที่ 1 ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายปรีชา ส่งเสริม หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมด้วย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จากกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 บุกเข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบและจับกุม พระอาทิตย์ จำปาเรือง อายุ 27 ปี พระลูกวัดบ้านแวง หมู่ที่ 1 ต.บัวน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนโทรศัพท์สายตรงไปยัง นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ว่า พระอาทิตย์ มีพฤติการณ์แอบลักลอบเสพและขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในเขตพื้นที่ อ.กันทรารมย์ มานานแล้ว
ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปที่วัดดังกล่าว พบ พระอาทิตย์ กำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่บนกุฏิ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อ พระอาทิตย์ เห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการตกใจ เดินลงมาจากกุฏิ แล้ววิ่งหนีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่ติดตามจับกุมไปอย่างกระชั้นชิด และสามารถจับกุมตัวพระอาทิตย์ไว้ได้ที่บริเวณหน้าวัดที่เกิดเหตุ พร้อมยาบ้าซึ่ง พระอาทิตย์กำไว้ในมือและโยนทิ้งขณะวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ จำนวน2 เม็ดครึ่ง ซึ่งกว่าจะจับกุมตัว พระอาทิตย์ ได้ ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ถึง 5 คน เนื่องจาก พระอาทิตย์ แสดงอาการขัดขืน จนเกิดการชุนมุนขณะจับกุม ซึ่งกว่าจะสามารถจับกุมพระอาทิตย์ได้ต้องใช้เวลาพอสมควร และ ยอมจำนนกับหลักฐาน ยาบ้า จำนวน 2 เม็ดครึ่ง ที่ตนโยนทิ้ง ซึ่งพระอาทิตย์ ได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ว่า ได้ซื้อยาบ้ามาจากเพื่อน จำนวน 20 เม็ด เสพไปแล้ว 17 เม็ด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาจับกุมตน และ จากการตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการขยายผลการจับกุม โดยให้ พระอาทิตย์ โทรศัพท์ติดต่อสั่งซื้อยาบ้า จาก นายทินกร หรือไผ่ ไชยภักดี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ที่ 16 ต.ผักแพว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า นายทินกร เกิดไหวตัวทันทราบว่า พระอาทิตย์ถูกจับกุมแล้ว พยายามพูดบ่ายเบี่ยงทางโทรศัพท์ว่าไม่มียาบ้าขายให้กับพระอาทิตย์แล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตัดสินใจเดินทางไปที่บ้านของนายทินกร เมื่อไปถึงที่บริเวณหน้าบ้านของ นายทินกร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบนายทินกร ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน
พอเห็นเจ้าหน้าที่ นายทินกร ได้ล่วงเอายาบ้าซึ่งใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีฟ้า ที่กระเป๋ากางเกงแล้วโยนทิ้งเข้าไปในบ้านแม่ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการจับกุมตัว นายทินกร และนำตัวไปตรวจสอบยาบ้าที่นายทินกรโยนทิ้งไป พบ เป็นยาบ้า จำนวน 147 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าทำการตรวจค้นที่บ้านพักของนายทินกร ปรากฏว่า พบ ยาบ้าเพิ่มอีก จำนวน 1 ถุง จำนวน 200 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนไว้ที่ขาเก้าอี้ที่ทำจากไม้ไผ่ และ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยัง พบ อาวุธปืน ปากกา อีก จำนวน 1 กระบอก นายทินกร รับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมด จำนวน 347 เม็ด และ อาวุธปืน เป็นของตนซึ่งได้ซุกซ่อนไว้จริง
จากการตรวจปัสสาวะของนายทินกร พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหากับ นายทินกร ในข้อหาว่า เสพ และ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และ มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ส่วนพระอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวไปทำการสึก และแจ้งข้อกล่าวหาว่า เสพ และ มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครอบโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรารมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป