เกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 มี.ค. 60) บาร์เซโลน่า ที่นัดแรกบุกไปโดน ปารีส แซงแชร์กแมง ถล่มมา 4-0 เปิดสนามคัมป์นู โดยมีข้อแม้ว่าต้องยิง 5 ประตูโดยที่ไม่สามารถเสียประตูได้ ซึ่งทั้ง 2 ทีมได้จัดนักเตะชุดที่สมบูรณ์ที่สุดลงสนาม เจ้าบ้านนำโดย 3 ประสาน MSN ขณะที่ทีมเยือนนำทัพโดย อังเคล ดิ มาเรีย และ เอดิสัน คาวานี่
เริ่มเกมมาไม่ทันไร เจ้าบ้านก็เริ่มมีความหวัง หลัง หลุยซ์ ซัวเรซ ที่ได้โฉบเข้าไปโหม่งบอลข้ามตัว ทรัพ บอลข้ามเส้นไปเต็มใบก่อนจะโดนเขี่ยออกมา บาร์เซโลน่าขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 3
ก่อนที่เกมจะเปิดแลกมาขึ้น จนกระมั่งนาทีที่ 40 ทางฝั่งปารีสก็เพิ่มความกดดันให้กับตัวเอง เมื่อ คูร์กเซว่า ทำพลาดสกัดบอลเข้าประตูตัวเองส่งบาร์ซ่าออกนำเป็น 2-0 และทำสกอร์รวมไล่ขึ้นมาเป็น 2-4 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 5 นาที บาร์เซโลน่าก็ทำประตูไล่มาอีก 1 ลูกจากจุดโทษของ ลีโอเนล เมสซี่ ส่งสกอร์รวมอยู่ที่ 3-4 แต่อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 62 ปารีส แซง แชร์กแมง เองก็มีสู้เมื่อ คูร์กเซว่าแก้ตัวได้สำเร็จหลังขึ้นไปเบียดชนะ อีวาน ราคิติค ก่อนโหม่งตั้งมาให้ เอดิสัน คาวานี่ ได้ตั้งป้อมหวดบอลแสกหน้า เตอ สเตเก้น เข้าประตูไป ส่งผลให้ ปารีสได้ประตูทีมเยือน และ บาร์เซโลน่าต้องยิงอีก 3 ลูกในการที่จะพลิกเข้ารอบได้สำเร็จ
หลังจากนั้น ทีมเยือนมีโอกาสปิดเกมหลายต่อหลายครั้งแต่ทำไม่ได้จนกระทั่งมาถูกเนย์มาร์ ซัดฟรีคิกให้บาร์เซโลน่า ออกนำ 4-1 สกอร์รวม 4-5 เท่านั้นยังไม่พอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรกบาร์เซโลน่าก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ หลุยซ์ ซัวเรซ ถูกชนล้มในเขตโทษ แม้จากภาพช้าจะเป็นการพุ่งล้มของดาวยิงอุรุกวัยก็ตาม สุดท้ายเป็น เนย์มาร์ ที่ซัดจุดโทษเข้าไป ส่งสกอร์รวม เสมอกันที่ 5-5 แต่บาร์เซโลน่าต้องการอีก 1 ประตูในการเข้า
และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงๆสำหรับบาร์เซโลน่า เมื่อเนย์มาร์หยอดบอลข้ามไลน์กองหลังปารีส มาให้ เซร์จี้ โรแบร์โต้ ตัวสำรองเหยียดขาจิ้มบอลเข้าประตูไปในระยะเผาขน พลิกแซงชนะปารีสไปด้วย สกอร์ 6-5 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้อย่างเหลือเชื่อ
ผลบอลคู่อื่นที่น่าสนใจ
ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก โบรุสเซีย ดอร์ทมุน ชนะ เบนฟิก้า 4-0
พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0
ลาลีกา สเปน เดปอติโบ ลา คอร์รุนญ่า เสมอ เรอัล เบติส 1-1