เซร์คิโอ อเกวโร่ คืนฟอร์มอีกครั้งหลังยิงคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ โมนาโก แบบสุดมันส์ 5-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่สนามเอติฮัด สเตเดียม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ โมนาโก จ่าฝูงลีกเอิง ฝรั่งเศส
เจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเฮดโค้ช เป๊ป กวารืดิโอล่า กลับมาโชว์ฟอร์มไม่แพ้ 6 นัดซ้อนรวมทุกถ้วยแถมชนะถึง 4 นัด เกมนี้ปรับถึง 7 ตำแหน่งจากฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันเสาร์ที่บุกเสมอ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 0-0 โดย จอห์น สโตนส์, นิโคลัส โอตาเมนดี้, แฟร์นานดินโญ่ และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังเป็นตัวจริง
ทางด้าน โมนาโก ฟอร์มโหดยิ่งกว่าไม่แพ้ใคร 12 เกมซ้อนในทุกรายการซึ่งชนะถึง 10 เกม นัดนี้ เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม กุนซือทีมเยือนเปลี่ยน 4 ตำแหน่งจากศึกลีกเอิง เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฌิบริล ซิดิเบ้ กับ อันเดรีย ราจจี้ คุมเกมรับแทน เฮแมร์สัน ที่ติดโทษแบนและ อัลมามี่ ตูเร่ หลุดเป็นตัวสำรอง ขณะที่แดนกลาง ฟาบินโญ่ ยึดตัวจริงจาก เจา มูตินโญ่ และกองหน้าวาง คิเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวรุ่งวัย 18 ปีลงก่อน วาเลรี่ แชร์กแมง
ครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างหาโอกาสทำเกมบุกและมีจังหวะสุดท้ายแบบหวาดเสียวแต่ไม่ได้ประตู จนถึงนาทีที่ 27 เจ้าบ้านเฮลั่นก่อนเมื่อ เลรอย ซาเน่ ได้บอลริมเส้นฝั่งซ้ายไกลกรอบโทษแม้ว่าโดนรุม 3 แต่เลี้ยงแหวกมาได้ก่อนทำชิ่งกับ ดาบิด ซิลบา จนหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย เปิดเรียดมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ชาร์จจ่อ ๆ ตุงตาข่ายให้ “เรือใบสีฟ้า” นำก่อน 1-0
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 32 ทีมเยือนไล่ตีเสมอเป็น 1-1 วิลลี่ กาบาเยโร่ ออกบอลไปทางซ้ายพลาดโดน ฟาบินโญ่ ตัดให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา จ่ายกลับไปที่ ฟาบินโญ่ เปิดจากข้างเขตโทษโค้งมาหน้าประตูให้ ราดาเมล ฟัลเกา วิ่งหนีกองหลังพุ่งตอร์ปิโดเฮดช็อตโขกตุงตาข่ายสุดเหนือชั้น
นาทีที่ 40 โมนาโก ได้เฮดัง ๆ บ้างเมื่อ ฟาบินโญ่ ตักบอลจากกลางสนามแนวรับเจ้าถิ่นปล่อยให้ คิเลียน เอ็มบัปเป้ ฉีกไปซัดในเขตโทษด้านขวายิงแสกหน้า กาบาเยโร่ ตุงตาข่ายให้ทีมเยือนขึ้นนำ 2-1 และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้
ครึ่งหลังนาทีที่ 50 สถานการณ์ของ แมนฯ ซิตี้ งานเข้าอย่างจัง เบนฌาแม็ง เมนดี้ เปิดโค้งจากกราบซ้ายโค้งมาหน้าประตู ฟัลเกา ชาร์จไม่ได้เจอ นิโคลัส โอตาเมนดี้ สกัดจากข้างหลัง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษแต่ดูจากภาพช้าก็ไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ฟัลเกา รับหน้าที่สังหารเองแปไปทางขวาติดเซฟ กาบาเยโร่ ทำให้เจ้าบ้านรอดตัวไป!
นาทีที่ 58 จากจังหวะสวนกลับของทีมเจ้าถิ่น ฟัลเกา จ่ายบอลให้ เมนดี้ พลาดถูก สเตอร์ลิ่ง วิ่งฉกไปทิ้งบอลยาวให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลากหนี คามิล กลิค เซนเตอร์ฮาล์ฟ โมนาโก เข้าเขตโทษด้านขวายิงบดตรงตัวแต่ ดาเนียล ซูบาซิช รับหลุดปลิ้นเข้าประตูไปดื้อให้เจ้าบ้านตีเสมอเป็น 2-2
ทว่า โมนาโก มาเหนือเมฆจริง ๆ พลิกนำอีกครั้งเป็น 3-2 ในนาทีที่ 62 จากจังหวะสวนกลับ โตมาร์ เลอมาร์ วางบอลยาวไปด้านซ้ายให้ ฟัลเกา โชว์ทักษะและความแข็งแกร่งม้วนหนี จอห์น สโตนส์ หลุดเข้าเขตโทษลากมาข้างในชิพข้ามศีรษะ กาบาเยโร่ เสียบใต้คานเข้าไปอย่างเหนือชั้น
“เรือใบสีฟ้า” เจอแบบนี้ยอมไม่ได้ ยิงตีเสมอเป็น 3-3 ในนาทีที่ 71 จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา ดาบิด ซิลบา เปิดโค้งข้ามมาเสาไกลให้ อเกวโร่ ชิงเหลี่ยมดีกว่า เมนดี้ พิงให้ตัวเองอยู่ข้างหน้าซัดวอลเลย์สวนตัว ซูบาซิช เสียบมุมอย่างสวย!
นาทีที่ 77 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกกลับมานำอีกครั้งเป็น 4-3 จากเตะมุมฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ เปิดโค้งเข้าศีรษะ ยาย่า ตูเร่ ที่หน้าปากประตูโขกเช็ดไปเสาสอง จอห์น สโตนส์ จิ้มนิ่ม ๆ เข้าไปง่าย ๆ ยังไม่พอ นาทีที่ 82 เจ้าบ้านโล่งอกอีกครั้งยิงเพิ่มเป็น 5-3 ในจังหวะค่อย ๆ ต่อบอลกันจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปข้างใน ซิลบา งัดบอลข้ามหัวแผงหลังทีมเยือนเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ หลุดเดี่ยวดีดไปให้ เลอรอย ซาเน่ จิ้มหน้าประตูเข้าไป
หลังจากนั้นทีมเยือนพยายามแก้เกมแต่ทำอะไรอีกไม่ได้ หมดเวลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ โมนาโก ไปแบบเอนเตอร์เทนผู้ชม 5-3 กุมความได้เปรียบก่อนไปเยือนนัดสองที่สนามสต๊าด หลุยส์ เดอซ์ กลางเดือนหน้า
ส่วนผลอีกคู่ในวันเดียวกัน “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด จากสเปน บุกไปเอาชนะ “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แบบระทึก 4-2 โดยทีมเยือนได้ประตูจาก ซาอูล นิเกซ นาทีที่ 17, อองตวน กรีซมันน์ นาทีที่ 26, เควิน กาเมโร่ จากจุดโทษนาทีที่ 59 และ เฟร์นานโด ตอร์เรส นาทีที่ 86 ขณะที่เจ้าบ้านแก้คืนได้จาก คาริม เบลลาราบี้ นาทีที่ 48 และ สเตฟาน ซาวิช ทำเข้าประตูตัวเอง นาทีที่ 68
credit : twitter @ChampionsLeague