“พลังประชารัฐ” ขู่ล้มดีลพรรคร่วมฯ เจรจาโควต้ารัฐมนตรีไม่จบ โยน “บิ๊กตู่” ชี้ขาดครม.คาดตั้งรัฐบาลได้ก่อน 13 มิ.ย. จับตา “สมคิด” ไม่ไปต่อ หากเสียกระทรวงเกรดเอ
7 มิ.ย.62-รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังที่มีการเลือกนายกฯ เสร็จเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) รอกำหนดการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนัดพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดเพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางของรัฐบาล และนโยบายการทำงาน โดยเฉพาะการพูดคุยถึงตำแหน่งรัฐมนตรีก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งวางกำหนดไว้ก่อนการประชุมอาเซียนระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย. ซึ่งการจัดสรรโควต้าแต่ละกระทรวงของแต่ละพรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย จะได้เท่ากันโควต้า เท่ากันที่ 1 รองนายกฯ 3 รัฐมนตรีว่าการ และ 4 รัฐมนตรีช่วย
“ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา จะได้ 2 ตำแหน่งที่ 1 รัฐมนตรีว่าการ 1 รัฐมนตรีช่วย ขณะที่พรรคขนาดเล็ก อาทิ พรรครวมพลังประชาชาติไทยที่มี ส.ส. 5 ที่นั่ง จะได้ 1 รัฐมนตรีช่วย แต่พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ได้ ส.ส.พรรคละ 3 ที่นั่ง ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาเช่นเดียวกับกลุ่มพรรคเล็กๆ ที่ได้ ส.ส.พรรคละ 1 คน”รายงานข่าวระบุ
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งนี้ จากเดิมการเจรจากับพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ข้อสรุปว่าจะได้เก้าอี้ รมว.คมนาคม รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และรมว.สาธารณสุข ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ จะได้รมว.พาณิชย์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น ขณะที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐยืนยันในเงื่อนไขเดิม ซึ่งผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐจะนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเป็นการภายในอีกครั้ง โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค จะแถลงข้อสรุปทั้งหมดเร็วๆนี้
“แต่หากว่าคุยกันไม่ลงตัว และยังยืนยันคำเดิมที่จะยึดดีลแรก พรรคพลังประชารัฐจะมอบหมายให้พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาความเหมาะสมด้วยตัวเอง เพราะจากที่พรรคพลังประชารัฐ ได้เสียโควต้าเก้าอี้ประธานสภาฯให้กับประชาธิปัตย์ไปแล้วนั้น กลับทำให้การประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกฯ กลับเห็นพล.อ.ประยุทธ์ ถูกถล่มอย่างหนัก ยิ่งหากเสียกระทรวงสำคัญๆ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกไปแล้ว จะทำให้การทำงานของรัฐบาลลำบากข้ึน แต่ได้วางไทม์ไลน์จัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุดไม่ให้เกินวันที่ 13 มิ.ย. เพื่อทันการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย.”รายงานข่าวระบุ
รายงานระบุด้วยว่า ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มองว่าหากโควต้าของพรรคพลังประชารัฐไม่เหลือกระทรวงเกรดเอไว้แล้วอาจทำงานไม่ได้ รวมถึงมีปัญหาเรื่องสุขภาพ อาจเป็นเหตุผลทำให้นายสมคิดตัดสินใจไม่ไปในรัฐบาลชุดใหม่
