หลอกโชเฟอร์ แท็กซี่ ไปส่งสายไหม ก่อนยิงทิ้งจุดไฟเผาพร้อมรถ

วันนี้ (3 ส.ค.62) เมื่อเวลา​ 03.00​ น.​ ร.ต.อ.วสันต์​ เพิ่มพูล​ รอง​ สว.(สอบสวน)​ สน.สายไหม​ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์​ และมีผู้เสียชีวิตภายในซอยเพิ่มสิน​ 51​ แขวงออเงิน​ เขตสายไหม​ กรุงเทพ​ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม​ พ.ต.อ.ทนงค์ศิลป์​ มณีโชติ​ ผกก.สน.สายไหม​ และประสานรถบรรเทาสาธารณภัย​สายไหม​ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง​ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน​ แพทย์นิติเวชรพ.ภูมิพล​ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยว​ อยู่ข้างวัดอยู่ดีบำรุงธรรม​ หรือวัดออเงิน​ ลึกเข้าไปประมาณ​ 300​ เมตร​ พบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส​ สีชมพู​ หมายเลขทะเบียน​ ทฬ​ 1696 กรุงเทพมหานคร​ เกิดเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน​ เจ้าหน้าที่ใช้น้ำในการดับ​ โดยใช้เวลา​ 20​ นาที​ เพลิงจึงสงบตรวจสอบภายในรถพบโครงกระดูกมนุษย์ไม่ทราบเพศ​ อยู่บริเวณข้างประตูด้านคนขับ​ จำนวน​ 1 ศพ​ และไม่พบเอกสารยืนยันตัวบุคคลแต่อย่างใด​ ใกล้กันพบหมวกแก๊ปสีดำ​ มีลายตัวหนังสือ​บนหมวก​ “i10” i​ สีขาว​ 10 สีส้ม​ ตกอยู่ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าไม่ใช่ของคนในละแวกนี้​ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน​ นางมาลัย​ อินทร์ชา อายุ​ 52​ ปี​ แม่ค้าผักในตลาดออเงิน​ ให้การ​ว่า​ ซอยที่เกิดเหตุเป็นซอยเปลี่ยว​ ซึ่งสุดซอย​เป็นทางตัน มีบ้านคนอยู่เพียงแค่​ 2 หลังคือบ้านของตนและของเพื่อนบ้านที่ตั้งห่างออกไปประมาณ​ 10 เมตร​ โดยทั่วไปแล้วซอยนี้จะไม่มีรถแท็กซี่เข้ามาเนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นป่ารก​​ ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยก่อนหน้านี้ช่วงเวลา​เที่ยงคืนยังไม่มีรถมาจอด​ กระทั่งเวลา​ 01.00​ น.​ ก็ได้ยินแตรรถดังยาว​ 1 ครั้ง​ และเสียงคล้ายเสียงปืน​ จำนวน​ 3 ครั้ง​ ก่อน​จะมีเสียงหมาเห่า​ ขณะนั้นไม่กล้าออกมาดูเนื่องจากเกิดความกลัว​ กระทั่งผ่านไป​ 20​ นาที​ ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงออกมาเห็นไฟกำลังลุกไหม้รถ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ

เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ใด​ และใครเป็นคนขับ​ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน​ และชันสูตรพลิกศพว่าเป็นการถูกลวงมาฆ่าชิงทรัพย์, อุบัติเหตุ, ฆ่าตัวตาย​ หรือไม่อย่างไร​ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป​

รายงานข่าวระบุว่า​ จากการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวเป็นของ​ สหกรณ์​แท็กซี่กรุงเทพฯ​ จำกัด​ โดยมีนาย​พรมมา​ ศรีไช่ยชิต​ อายุ​ 59​ ปี​ ชาว​ จ.กาฬสินธุ์​ เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว​ และจากการสอบปากคำ​ นาย​ จักรพงษ์ ศรีไชยชิต อายุ​ 35 ปี​ ลูกชาย​ ให้การ​ว่า​ พ่อยึดอาชีพขับรถแท็กซี่มาตลอด​ 35​ ปี​ ตลอดเวลาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร​ ซึ่งพ่อได้ออกจากบ้านพักที่ซอยพหลโยธิน​ 24​ เพื่อมาเช่าแท็กซี่ขับตั้งแต่เวลา​ 15.00​ น.​ ของวันที่​ 2 ส.ค.​ และจะต้องส่งคืนรถในเวลา​ 03.00​ น.​ วันที่​ 3 ส.ค.​ แต่ทางตำรวจโทรมาแจ้งว่ารถคันที่พ่อขับถูกเผาและพบโครงกระดูกภายในรถ​ ซึ่งคาดว่าเป็นพ่อของตน​

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบพยานหลักฐาน​ ตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบ​ตัวบุคคล พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนจะสรุปสาเหตุในคดีนี้ต่อไป

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ส่องเลขธูป 3 ตัวเด็ดๆ! ธัญญ่า อาร์สยาม ทำบุญบ้าน บวงสรวงปู่ย่าพญานาค

คอหวยแห่ส่องเลขธูป 3 ตัว! ธัญญ่า อาร์สยาม หลังทำบุญบ้านประจำปี บวงสรวงองค์เทพเทวา ปู่ย่าพญานาค

สั่งปิด รพ.ภาชี อพยพผู้ป่วย หลังไฟไหม้โกดังสารเคมี จ.พระนครศรีอยุธยา

วุ่นทั้งคืน! สั่งปิดโรงพยาบาลภาชี จัดตั้งศูนย์อพยพ หลังไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี ล่าสุดเพลิงสงบแต่สถานการณ์ยังน่าห่วง

สลด! นร.ชาย พลัดตกชั้น 4 รร.มัธยมดังเมืองคอน ดับ คาดเป็นซึมเศร้า

โรงเรียนดังนครศรีธรรมราช สั่งปิดข่าว หลังนักเรียนชายพลัดตกจากชั้น 4 ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล คาดเป็นซึมเศร้า

เปิดคลิป! นาทีสาวสองตะลุมบอนชายฝรั่งหลังถูกตบที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต

วุ่นทั้งหาด! สาวสองเปิดศึกลุมตืบนักท่องเที่ยวชายช่าวต่างชาติ หลังถูกตบ-ด่าทอรุนแรงจนทนไม่ได้ต้องยกพวกมาช่วยลุม ชมคลิป

TWICE เตรียมปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ‘Dive’ ในญี่ปุ่นเร็วๆ นี้!

ตัวแม่เจน 2 สาว ๆ TWICE ได้เซอร์ไพร์สจัดหนัก เตรียมปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ‘DIVE’ ในญี่ปุ่นวันที่ 17 กรกฎาคม 2024 นี้!

หนุ่มคลั่งสารภาพ โมโหจนหูดับ ฟันหมดไม่สนใคร สุดท้ายโดยข้อหาหนัก

ไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ หนุ่มใหญ่วัย 43 ปีรับสารภาพ วิวาทกับคนไร้บ้านจนสติหลุด ก่อนคว้าปังตอไล่ฟัน จนไม่รู้ใครเป็นใคร
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า