เมื่อวานนี้ (31มี.ค.61) เกิดเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ ขบวนรถไฟที่ 447 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี จรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก เหตุเกิดห่างจากสถานีรถไฟเจาะไอร้อง ประมาณ 300 เมตร ซึ่งขบวนรถไฟดังกล่าวมี 8 โบกี้และโบกี้ที่ 7 ซึ่งเป็นตู้ทำการของพนักงาน มีร่องรอยถูกกระสุนปืน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่ต้องคมุเข้มสถานนีรถไฟ สุไหงโก-ลก อย่งเข้มงวด
และวันนี้ (1 เม.ย.61) ที่สถานีรถไฟ ยะลา เจ้าหน้าที่เข้าดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งเป็นความร่วมมือของการรถไฟร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน จัดกำลัง อส. จำนวน 10 นาย เพราะมีประชาชน ใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยขบวนแรกเป็น ขบวนรถไฟยะลา – สุไหงโกลก ขบวนที่ 453 ซึ่งเป็นขบวนแรก ที่ออกจากยะลา ไปยังปลายทางสุไหงโก-ลก
นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าชุด พร้อมกำลัง อส.อีก 9 นาย ทำหน้าที่เป็นหน่วยกำลังรักษาความปลอดภัยประจำขบวนรถ ตลอดเส้นทางไปยังปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก โดยมีความพร้อมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้กับขบวนรถและผู้โดยสารสำหรับขบวนรถไฟ ที่มีสถานีปลายทางสถานีสุไหงโกลก นั้น มีอยู่ จำนวน 7 ขบวน และจากสถานีสุไหงโก-ลก ไปยังสถานีปลายทาง กทม.และรถท้องถิ่นปลายทางสุราษฎร์ธานี ,นครศรีธรรมราช,หาดใหญ่,พัทลุงและยะลา รวมจำนวน 7 ขบวน รวมรถไฟวิ่งในสายล่องใต้ไปยังสถานีสุไหงโกลก และออกจากสถานีสุไหงโก-ลก สายวิ่งขึ้น จำนวน 14 ขบวนต่อวัน
โดยเหตุการณ์ลอบยิงรถไฟ เกิดขึ้นประมาณ 5โมงเย็นของเมื่อวาน (31มี.ค) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมี 2คน แต่งกายคล้ายผู้หญิงขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.เป็นพาหนะ ขับมาตามถนนเลียบเส้นทางรถไฟ โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิด ยิงใส่โบกี้ที่ 7 ซึ่งเป็นตู้ทำการของพนักงาน จำนวน 6 นัดซ้อน แล้วคนร้ายได้รีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็พยายามเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุเพื่อมาดำเนินคดี โดยเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่และสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้