กสศ.เปิดโอกาส เฟ้นหาเด็กขยันทำงาน-เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตั้งเป้ามอบ 2,500 ทุนต่อปี ใน 40 สาขาวิชาชันนำ สมัครได้ถึง 18 มี.ค.นี้
28 ก.พ.62-ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อดำเนินการค้นหา คัดเลือกและคัดกรองผู้รับทุนโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ที่ปรึกษากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และคณะอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงกล่าวว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้จับมือกับสถาบันการศึกษาสายอาชีพ สถานศึกษาอาชีวศึกษารัฐ เอกชน วิทยาลัยชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และโรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ รวม 37 แห่งทั่วประเทศ เปิดประตูสู่โอกาส “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาที่มีศักยภาพ ขยันทำงาน เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์และกำลังเรียนชั้น ม.3 ม.6 หรือเทียบเท่าหรือ ปวช.3 ได้เรียนต่อสายอาชีพในสาขาที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานของประเทศจำนวน 2,500 ทุนต่อปี ซึ่งผ่านการคัดเลือกโดยสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ
ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทุนแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ทุน 5 ปี สำหรับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้น ม.3 หรือเทียบเท่า จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่าที่พักและค่าครองชีพ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ทางการเรียนที่จำเป็นเดือนละ 6,500 บาท ต่อทุนใน 3 ปีแรก และ 7,500 บาทต่อทุนใน 2 ปีหลัง รวมถึงค่าธรรมเนียมการศึกษาในอัตราประหยัด ขณะที่ทุน 2 ปี สำหรับนักเรียนชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า จะได้รับการสนับสนุน ค่าใช้จ่ายประจำเดือน เดือนละ 7,500 บาท ต่อทุน และค่าธรรมเนียมการศึกษาในอัตราประหยัดเช่นกัน ส่วนสาขาที่รับสมัครเป็นสาขาที่คัดเลือกแล้วว่า มีความโดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน เมื่อเรียนจบออกไปมีงานทำแน่นอน โดยมีสาขาให้เลือกกว่า 40 สาขา อาทิ เทคโนโลยีอาหาร ท่องเที่ยว หุ่นยนต์อัจฉริยะ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก โลจิสติกส์ งานรถไฟความเร็วสูง ช่างอากาศยาน เกษตรนวัตกรรม เป็นต้น
ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับนักเรียนนักศึกษา ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้เรียนต่อในสถาบันสายอาชีพที่มีคุณภาพสูง เพื่อช่วยยกระดับทักษะความรู้ความสามารถ มีอนาคตที่ก้าวหน้า และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ที่สำคัญช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองอีกด้วยเนื่องจากการเรียนสายอาชีพจำเป็นต้องมีอุปกรณ์การเรียนที่ครบครัน ห้องเรียนปฏิบัติการทันสมัยและเน้นทักษะการปฎิบัติงานในสถานประกอบการ สำหรับเรื่องการมีงานทำของการเรียนสายอาชีพนั้น ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะสถาบันแต่ละแห่งที่เข้าร่วมโครงการได้จัดการเรียนการสอนและพัฒนาหลักสูตรตอบสนองภาคภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมในอนาคต อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ First S-CURVE และกลุ่มอุตสาหกรรมในอนาคตNew S-CURVE เป็นต้น โดยร่วมมือกับภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ
“ทุนและการสนับสนุนของกสศ.ไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นสวัสดิการสังคมช่วยเหลือเด็กยากจนให้ได้รับโอกาส เราไม่จ่ายเงินสะเปะสะปะ เลือกเด็กเยาวชนที่ยากจนจริงๆ มีความตั้งใจมุมานะ แต่ไม่ค่อยมีโอกาส โครงการนี้ตอบโจทย์ลดความเหลื่อมล้ำ และยังช่วยเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาต่อสายสามัญตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ ร้อยละ 50 ผลลัพธ์ของโครงการจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเด็กอาชีวะให้เป็นเชิงบวกและยกระดับการเรียนการสอนสายอาชีพ สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้เรียนและครอบครัว เด็กกลุ่มนี้จะก้าวหน้าเป็นนวัตกรสายอาชีพ กำลังคนคุณภาพชั้นนำของประเทศ ตอบโจทย์อนาคตของประเทศไทยได้เป็นอย่างดียิ่ง”ที่ปรึกษา กสศ.กล่าว
ด้านนางสาวธันว์ธิดา วงศ์ประสงศ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วม นวัตกรรมและทุนการศึกษา กสศ. กล่าวว่า โครงการนี้สนับสนุนในลักษณะทุนให้เปล่า โดยตลอดระยะเวลาของการเป็นนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงของกสศ. ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน อาทิ การเรียนรู้ทักษะใหม่และทักษะอนาคต กิจกรรมรู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนนักศึกษาทุน โอกาสการเรียนรู้นอกห้องเรียนกับสถานประกอบการชั้นนำผ่านการปฏิบัติการจริงกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ สำหรับนักเรียนกลุ่มที่สามารถยื่นใบสมัครได้ทันที อาทิ นักเรียนยากจนพิเศษที่รับเงินอุดหนุนจาก กสศ. นักเรียนยากจนที่รับเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน สพฐ. หรือนักเรียนยากจนจากโรงเรียนสังกัดอื่นๆโดย เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 18 มี.ค.2562 โดยนักเรียน นักศึกษาสามารถยื่นใบสมัครได้ที่สถาบันการศึกษาสายอาชีพที่เข้าร่วมโครงการ โดยตรวจสอบรายชื่อสถาบันและสาขาที่เปิดรับพร้อมดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็ปไซต์กสศ. www.eef.or.th หรือสายด่วน โทร 02-079-5475 กด 2 ในวันและเวลาราชการ