จากกรณีที่มีชาวบ้านเกาะลัด จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ร้องขอไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้กรมชลประทานยกบานเขื่อนทดน้ำบางปะกง ให้พ้นน้ำในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง เพื่อให้ระดับน้ำสามารถไหลเข้าคลองธรรมชาติด้านเหนือเขื่อนได้ และขอให้ยกบานเขื่อน เพื่อให้ผักตบชวาไหลลงทะเล เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากความหนาแน่นของผักตบชวาทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นั้น
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางปะกง ได้ดำเนินการยกบานจำนวน 4 บาน ให้พ้นน้ำในช่วงน้ำขึ้น เพื่อให้ระดับน้ำสามารถไหลเข้าคลองธรรมชาติได้ เป็นแนวทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนอยู่แล้ว ซึ่งสามารถทำได้ทันที ส่วนในเรื่องที่ชาวบ้านร้องขอให้ยกบานปตร.เขื่อนบางปะกงขึ้น เพื่อให้ผักตบชวาไหลผ่านลงทะเลได้สะดวก เนื่องจากมีปริมาณผักตบชวาแน่นหนาบริเวณหน้าเขื่อน จนส่งผลให้การสัญจรทางน้ำทำได้ไม่สะดวก นั้น เบื้องต้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางปะกง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ถึงเหตุที่ไม่สามารถเปิดเขื่อนเพื่อให้ผักตบชวาไหลลงไปด้านล่างเขื่อนได้ เนื่องจาก เขื่อนบางปะกงเป็นจุดสกัดและกำจัดผักตบชวา ตามนโยบายของรัฐบาล ประกอบกับตั้งแต่ท้ายเขื่อนลงไปได้จัดเป็นสายน้ำเฉลิมพระเกียรติ ร.10 ซึ่งเป็นจุดที่ต้องรักษาคุณภาพน้ำและความสะอาด
ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางปะกง ไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เร่งแก้ไขปัญหา ด้วยทำการลดระดับบานประตูปตร.เขื่อนบางปะกง ทั้ง 5 บาน ในช่วงที่น้ำลง เพื่อกันผักตบชวาไว้ทางด้านเหนือเขื่อน และนำเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ รถแบ๊คโฮ 3 คัน เรือผลักดัน 1 ลำ พร้อมโป๊ะ 2 ลำ เข้าดำเนินการเก็บผักตบชวา นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำทุ่น หรือ Logboom มากั้นบริเวณเขื่อนจนถึงปากคลองเกาะลัด เพื่อไม่ให้ผักตบชวาไหลกลับเข้าไปในบริเวณเกาะลัดได้อีก
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ได้ดำเนินการกำจัดวัชพืชและผักตบชวาตามลำน้ำและแม่น้ำสายหลักอยู่สม่ำเสมอ เพื่อให้การระบายน้ำทั้งในช่วงน้ำแล้งและน้ำหลากทำได้สะดวก นอกจากนี้ยังเพื่อรักษาความสะอาดของลำน้ำให้คงความสวยงาม เพื่อเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอีกทางหนึ่งด้วย
อ่านข่าว Bright Today
