เกือบตาย ถูกงูทับสมิงคลากัด โร่ไปหาหมอ ตรวจเลือดรอบแรกไม่เจอ จ่ายพารา ไล่กลับบ้าน ลั่น ไม่ใช่เคสสำคัญ ให้มาใหม่ตอน 9 โมงเช้า
ข่าวโซเชียล กรณี หนุ่มเกือบตาย ถูกงูทับสมิงคลากัด สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า Paweena Tubtimhom แชร์เรื่องราว ลูกน้องถูกงูพิษกัด จนกลายเป็นไวรัลดราม่าอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าของเฟซบุ๊กระบุข้มมูลว่า “ลูกน้องโดนงูกัดตั้งแต่ตีหนึ่ง พอไปหาหมอที่โรงพยาบาลวังจันทร์ หมอเจาะเลือด หมอบอกให้กลับบ้าน เพราะในเลือดไม่มีพิษ #แถมพูดกับแม่ลูกน้องเราว่า ไม่ใช่เคสสำคัญให้ยาและให้กลับบ้านได้เลย มันใช่เหรอวะ ได้ยาพารา กับ ยาซ่าเชื้อ แล้วบอกกับแม่เด็กว่า 9 โมงให้มาใหม่”

ถูกงูทับสมิงคลากัด ทำหนุ่มเกือบตาย
เจ้าขอเฟซบุ๊กดังกล่าว ยังระบุอีกว่า “ยังไม่ทัน 9 โมงเลยลูกน้องพูดไม่ได้ หายใจไม่ออก ลิ้นคับปาก ตาหลับลืมตาไม่ขึ้น เราก็รีบส่งโรงบาล สรุปแล้ว “ไปเจาะเลือดใหม่ ผลเลือดออกมามีพิษโดนงูมีพิษกัด” ชีวิตคนคนนึงคุณทำได้สะเพร่าขนาดนี้ได้เหรอวะ แย่ฉิบหายกูว่ากูจะไม่ด่าแล้วนะ พอเห็นสภาพลูกน้องแล้วไม่ไหวจริง ๆ อย่าให้เกิดเคสแบบนี้กับใครอีกนะ ชีวิตของทุกคนมีค่าเหมือนชีวิตรของพวกคุณแหละ (งูทับสมิงคลา) หายไว ๆ ไอ้พี ไม่มีใครทิ้งแก ทุกคนรอมึงหายกลับมาอยู่บ้าน”
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น นี่แหละ กุถึงบอกไง ก้อเห็นตัวงูมันจบอกไม่มีพิษได้ไง งงมาก พิษมันอันดับต้นๆเลยนะตุยได้ , คำพูดเดียวกันเลย ลูกน้องที่บ้านก็โดนแต่เป็นงูกะปะ พยาบาลบอกดึกแล้วงูน่าจะกินอะไรมาแล้วพิษน้อยไล่กลับบ้าน เช้าทนไม่ไหวไปใหม่ ได้แจะเลือดสรุปพิษมาเต็มที่ ให้นอนโรงพยาบาล นอนเป็นอาทิตย์ (รพ.เดียวกันสะด้วย) เป็นต้น
ข่าวที่น่าสนใจ
- หมอดูหลอกทำพิธีกรรม หนุ่มนาน 3 ปี สูญครึ่งล้าน ล่าสุด ร้องกองปราบฯ แล้ว
- อบอุ่นหัวใจ! “พี่หมี” เหมาขนมทั้งร้านของ “แอมป์ พีรวัศ” ให้ปิดร้านกลับไปดูแลลูก
- 10 เลขมาแรง แม่ทำเนียน 16/5/68 แนวทางเลขเด็ด ล่าสุด หวยวันศุกร์
ทั้งนี้ งูทับสมิงคลา หรือ งูทับทางน้ำเงิน มีลักษณะด้านหลังมีลวดลายแถบสีน้ำตาลเข้ม สีดำ หรือสีกรมท่า จำนวน 27–34 แถบบนลำตัวและหาง ซึ่งด้านข้างจะแคบและโค้งมน แถบไขว้อันแรกต่อเนื่องกับสีเข้มบริเวณหัว แถบขวางสีเข้มแต่ละแถบจะคั่นด้วยแถบสีเหลืองอมขาวกว้างซึ่งอาจมีจุดสีดำอยู่ และบริเวณท้องมีสีขาวที่มีความสม่ำเสมอ เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามทางโรงพยาบาลดังกล่าว เบื้องต้น ตอนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าผิดพลาดในส่วนใด ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าชัดเจนมากขึ้นจะทำการชี้แจงไปยัง สสจ.จังหวัด ให้ทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าว ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทางทีมข่าว BrightTV จะมารายงานให้ทราบทันที
