CSI LA เปิดเอกสารลึกลับกรณีอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด บอส อยู่วิทยา ซิ่งรถหรูพุ่งชนตำรวจเสียชีวิต เพราะพยานมี 2 พยานใหม่โผล่ ทำให้นายบอสไม่ถือว่าประมาทเลยสั่งไม่ฟ้อง

26 ก.ค.63 เพจเฟซบุ๊ก CSI LA ออกมาเปิดเผยความคืบหน้ากรณีอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด บอส อยู่วิทยา หรือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทธุรกิจดังในคดีที่เมาแล้วขับชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสน.ทองหล่อ เสียชีวิต หลังคดีผ่านมา 8 ปี

เพจชื่อดังระบุว่า เอกสารลับที่คนวงในส่งมาครับที่อธิบายว่าทำไมนายบอสถึงรอด

อ่านข่าว ศรีสุวรรณ จี้’บิ๊กตู่’ตั้งกรรมการสอบอัยการ-ตำรวจ เหตุไม่สั่งฟ้อง บอส อยู่วิทยา

อ่านข่าว กระทิงแดง โร่แจง ‘บอส อยู่วิทยา’ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่เคยถือหุ้นบริษัท

อ่านข่าว วันอยู่ บำรุง โวย!ชาวเน็ตอย่าเอาคดี บอส อยู่วิทยา มาเทียบกับคดียิงตร.ของดวง อยู่บำรุง

เป็นหนังสือคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ที่ตำรวจปั้นพยานขึ้นมาสองคนหลังเหตุเกิดไป8ปีแล้ว พยานให้การว่าเห็นนายดาบขับรถตัดหน้า ทำให้นายบอสไม่ถือว่าประมาทเลยสั่งไม่ฟ้อง ประเด็นอยู่ที่ฝ่ายนายบอสร้องขอความเป็นธรรม แล้วอยู่ๆเดือนธันวาคม 2562 มีพยานโผล่มาสองคน ว่าขับรถตามกันมา ด้วยความเร็ว 80 กม.ต่อชม. ประเด็นอยู่ที่ฝ่ายนายบอสร้องขอความเป็นธรรม แล้วอยู่ๆเดือนธันวาคม 2562 มีพยานโผล่มาสองคน ว่าขับรถตามกันมา ด้วยความเร็ว80 กม.ต่อชม. เอาคำให้การบุคคลมาหักล้างผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์มันใช้ไม่ได้ นี่สาเหตุที่ผู้ตายคือผู้ต้องหาที่ 2

นอกจากนี้มีเอกสารระบุด้วยว่า

… 79.23 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่อมาเมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้อีก และมีการสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติม คือ พลอากาศโท จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และนายจารุชาติ มาดทอง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ได้ความว่าพยานทั้งสองขับรถยนต์แล่นตามหลังรถจักรยานยนต์คันที่ผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่มาด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ปรากฏในภาพวงจรปิด) ให้การว่าผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถยนต์มาด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เมื่อพยานทั้งสองปากเป็นประจักษ์พยานในขณะเกิดเหตุ ให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในประเด็นสําคัญเกี่ยวกับคดี ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวสอดคล้องกับคําให้การของพยานผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวข้างต้น ข้อเท็จจริงจึงเชื่อว่า ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถยนต์แล่นมาในช่องทางเดินรถที่ 3 ชิดเกาะกลางถนนด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีนายจารุชาติ มาดทอง ขับรถยนต์กระบะแล่นมาในช่องทางเดินรถที่ 2ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่รถจักรยานยนต์แล่นมาในช่องทางเดินรถที่ 1 (ด้านซ้าย)

แล้วผู้ต้องหาที่ 2 ได้ขับรถจักรยานยนต์เปลี่ยนช่องทางเดินรถจากช่องทางที่ 1 ผ่านช่องทางเดินรถที่ 2 ที่นายจารุชาติ ขับรถมา นายจารุชาติ ชะลอความเร็วของรถลงและหักพวงมาลัยหลบไปทางซ้ายมือเพื่อไม่ให้ชนกับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่มา แต่รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่มาได้แล่นเข้าไปในช่องทางเดินรถที่ 3 ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถยนต์แล่นมาในระยะกระชั้นชิด จึงทําให้รถยนต์คันที่ ผู้ต้องหาที่ 1 ขับขี่มาชนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่ผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่มา เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาที่ 2 ถึงแก่ความตาย รถทั้งสองคันได้รับความเสียหาย เมื่อเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่รถจักรยานยนต์เปลี่ยน

“ใบต่อความเห็นและคําสั่ง สำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556 แผ่นที่ 74” ระบุเนื้อหาต่อเนื่องกันว่า

ช่องทางเดินรถเข้าไปในช่องทางเดินรถที่ผู้ต้องหาที่ 1 ขับขี่มาด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะกระชั้นชิด ทําให้ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่สามารถหลบหลีกและหยุดรถได้ทันที่ เหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหตุสุดวิสัย มิใช่เกิดจากความประมาทปราศจากความระมัดระวังของผู้ต้องหาที่ 1 แต่เกิดจากความประมาทปราศจากความระมัดระวังของผู้ต้องหาที่ 2 ที่เปลี่ยนช่องทางเดินทางรถในระยะกระชั้นชิด

การกระทําของผู้ต้องหาที่ 1 จึงไม่เป็นความผิดฐานกระทําโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 291 คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ในความผิดฐานนี้ และเป็นกรณี กลับความเห็นและค้าสั่งเดิมตามระเบียบสํานักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดําเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 6 วรรคท้าย 48

อนึ่ง ฝ่ายผู้ต้องหาที่ 2 (ผู้ตาย) ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนจากฝ่าย ผู้ต้องหาที่ 1 จนเป็นที่พอใจ และไม่ประสงค์จะดําเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากับผู้ต้องหาที่ 1อีกต่อไปแล้ว

สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานกระทําโดยประมาทและการกระทํานั้น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 4 กลับความเห็นและคําสั่งเดิม

กรณีสั่งไม่ฟ้อง เสนอผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1

ลงนามวันที่ 20 ม.ค. 2563 โดย นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

“Code Kunst” ตัดสินใจแยกทางกับ AOMG หลังอยู่มานานถึง 6 ปี

นักดนตรี/โปรดิวเซอร์ “Code Kunst” ชื่อดัง ได้ตัดสินใจแยกทางกับค่ายเพลง AOMG หลังจากอยู่มานานถึง 6 ปี ทำเอาใจหายไปกันทั้งทามไลน์

ลายพรางสุดโหด! จับสิบโท-ทหารว้าแดง ฆ่าทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ ปมฉุนแซวสาว

โหดเหี้ยม ตร.รวบ สิบโท-ทหารว้าแดง ฆ่าทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ ก่อนหิ้วป่าละเมาะ ใกล้ดอยสุเทพ เตรียมเร่งล่าผู้ต้องหาอีก 2 คน

อดีตผู้บริหารโพสต์โต้ข่าว หลัง เมากร่างถีบหน้าตร. ล่าสุดโดน 3 ข้อหาหนัก

ไม่ยอมเสียเปรียบ! อดีตผู้บริหารหญิงบ.ดังระดับโลก เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก หลังตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก เจ้าตัวลั่น ไม่ขอเป็นเครื่องมือให้ใคร

“เจนนี่ BLACKPINK” ร่วมมือกับ Gentle Monster เปิดตัวคอลเลกชัน ‘Jentle Salon’

“เจนนี่ BLACKPINK” ร่วมมือกับ Gentle Monster เปิดตัวคอลเลกชั่น ‘Jentle Salon’ ทำเอาแฟนๆ ต่างจับจองซื้อตามกันทั่วโลก

โอ้โห! ดาวยั่วตัวแม่ นุ่งชั้นในซีทรู เปิดอกล้นกระแทกตา โชว์เอวคอดทำใจสั่น

โอ้โหของจริง! ดาวยั่วตัวแม่ นุ่งชุดชั้นในซีทรูบาง เปิดอกล้นกระแทกตา โชว์หุ่นสับ อวดเอวคอดทำใจสั่น งานนี้บอกเลยแฟนๆ แห่ไลก์เพียบ

“NewJeans” ปล่อยภาพทีเซอร์แรก ‘How Sweet’ ท่ามกลางความขัดแย้ง

น้องสาวแห่งชาติของแท้ NewJeans ปล่อยภาพทีเซอร์แรกเพลง ‘How Sweet’ ก็ทำเอาเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลได้ทันที!
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า