พ่อเดือด! ล่าตัววินจยย. เฉี่ยวตนพร้อมลูกวัย 14 ล้มเจ็บ ขณะไปส่งเข้าโรงเรียน ก่อนหนีหาย ไม่เหลียวแล ลั่น ‘กูเจ็บไม่เป็นไร ลูกกูเจ็บกูยอมไม่ได้’
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jatuporn Dangsanga ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเวลาประมาณ 07.45 น. ของวันที่ 29 ม.ค. 68 ได้มีวินจยย.รับจ้างขับขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีแดง ไม่ทราบทะเบียน มีลูกค้าซ้อนท้ายอยู่ ได้ขับมาเฉี่ยวชนรถจยย.ของผู้โพสต์ที่จอดรับลูกอยู่บริเวณริมถนน พิบูลสงคราม มุ่งหน้าวัดเขมาภิรตาราม อ.เมือง จ.นนทบุรี แล้วขับหลบหนีไป ทำให้ลูกสาวได้รับบาดเจ็บ โดยโพสต์ระบุข้อความว่า “อย่าให้กูเจอนะ รอก่อน รู้แหล่งแล้ว เดี๋ยวไปหา กูเจ็บไม่เป็นไร แต่ลูกกูเจ็บต้องเข้าเฝือกหยุดเรียนกูยอมไม่ได้”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ เข้าพบนาย จตุพร แดงสง่า อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย เจ้าของรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ ทะเบียน 4 ขณ 566 กทม. และเป็นพ่อของ ด.ญ.พรนนภา เสมคำ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ได้พาผู้สื่อข่าวชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมชี้ให้เห็นความเสียหายของรถจยย.และบาดแผล

นายจตุพร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 07.45 น. ตนได้ขับรถจยย.มาส่งลูกสาวตามปกติ ขณะที่อยู่บริเวณโค้งหน้าวัดเขมาภิรตาราม ปรากฏว่ามีชายขับขี่จยย.ซึ่งมีลูกค้าเป็นนักเรียนซ้อนท้ายมาด้วย เฉี่ยวชนบริเวณด้านข้างขวารถของตน ทำให้เสียหลักล้มลง พร้อมลูกสาวได้รับบาดเจ็บ โดยตนมีบาดแผลถลอกบริเวณข้อเท้าด้านหน้า ส่วนลูกสาวได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา ต้องใส่เฝือกอ่อน แต่ตอนนี้หมอแจ้งว่าขาไม่ได้หัก หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้รีบนำตัวลูกสาวไปส่งโรงพยาบาล ก่อนใช้สิทธิ์ประกันอุบัติเหตุของโรงเรียน ซึ่งตอนนี้ก็ยังมาโรงเรียนไม่ได้ อยู่ในความดูแลของคุณแม่
นายจตุพร กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคู่กรณีเป็นรถจยย. ทะเบียนสีขาว ไม่ใช่สีเหลือง อีกทั้งเสื้อวินยังไม่มีหมายเลขบอกอีกด้วย และขับมาด้วยความเร็วกว่าคันอื่น โดยปกติแล้วจุดนี้ช่วงเช้าผู้ปกครองจะมาส่งเด็กนักเรียนทุกวันอยู่แล้ว ควรจะลดความเร็วเพราะเป็นเขตชุมชน มีเด็กนักเรียนเยอะ ตอนนี้ตนได้หาพยานหลักฐานเองเกือบทั้งหมด ใช้กล้องวงจรปิด จนกระทั่งได้เบาะแสว่าคู่กรณีอาศัยอยู่แถว บางกรวย ตอนนี้ตนจะติดตามต่อเนื่อง เพื่อให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าหากมีการลงมาพูดคุยหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ตนเชื่อว่าคงจะไม่มีวันนี้ที่ต้องมาร้องเรียนสื่อมวลชน เรื่องแบบนี้สามารถพูดคุยเจรจากันได้ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว
