เปิดประวัติ “น้ำแข็ง AF7” หนุ่มมาดเซอร์นักล่าฝัน ก่อนผันตัวทำธุรกิจ – ดราม่าปมโกง 50 ล้าน ผู้เสียหายหลายรายออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านรายการ “โหนกระแส”
กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง สำหรับ น้ำแข็ง ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว อดีตนักร้องหนุ่มจากเวทีเรียลลิตี้ชื่อดัง “Academy Fantasia ซีซั่น 7 (AF7)” หลังตกเป็นข่าวพัวพันดราม่าธุรกิจก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูปมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านรายการ “โหนกระแส”
ย้อนเส้นทางชีวิต “น้ำแข็ง AF7” เจ้าของเสียงเท่และลุคมาดเซอร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นขวัญใจแฟนคลับทั่วประเทศ
น้ำแข็ง หรือชื่อจริงว่า “ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว” เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2532 ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แม้จะเรียนสายกฎหมาย แต่ใจของเขากลับผูกพันกับเสียงเพลงและดนตรีตั้งแต่วัยเด็ก
ก่อนเข้าร่วมรายการ น้ำแข็งไม่เคยผ่านการเรียนร้องเพลงหรือแข่งขันเวทีใดมาก่อน แต่มีพรสวรรค์ทางดนตรี สามารถเล่นได้ทั้งกีตาร์ เบส และกลอง ความฝันของเขาคือการได้เป็น “นักดนตรีอาชีพ” ที่สามารถใช้เสียงเพลงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น
ปี 2553 น้ำแข็งได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางบันเทิงเต็มตัวในฐานะนักล่าฝันจากเวที “AF7” ด้วยบุคลิกเรียบง่าย เท่แบบธรรมชาติ และความจริงใจ ทำให้เขาได้รับความรักจากแฟนคลับจำนวนมาก หลังจบการแข่งขัน น้ำแข็งยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่อง “Smallroo กูแนว” ซึ่งเป็นงานแสดงเรื่องแรกของเขา
ในด้านชีวิตส่วนตัว น้ำแข็งคบหาดูใจกับ “เอย พรภิชญา โพธิ์ทอง” ผู้บริหารสาวสวยเจ้าของแบรนด์ “ก๋วยเตี๋ยวเรือเลอรส” ซึ่งกลายเป็นธุรกิจที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ ด้วยชุดก๋วยเตี๋ยวเรือสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งคู่แต่งงานและร่วมกันบริหารธุรกิจดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันชื่อของ “น้ำแข็ง AF7” กลับกลายเป็นที่จับตามองอีกครั้ง เมื่อมีผู้เสียหายหลายรายออกมาแฉว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุนและสั่งซื้อสินค้ากับบริษัทของเขา จนเกิดความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงในรายการ “โหนกระแส” ว่าธุรกิจมีปัญหาทางการเงินและขอรับผิดชอบโดยทยอยชำระหนี้
จากอดีตนักล่าฝันเสียงเท่ผู้รักในดนตรี สู่นักธุรกิจหนุ่มที่ต้องเผชิญมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต — เส้นทางของ “น้ำแข็ง AF7” วันนี้อาจไม่สวยงามเหมือนวันวาน แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้ยังคงอยู่ในความสนใจของสังคม และรอคำตอบจากเจ้าตัวว่าจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์และกู้ศรัทธาคืนได้หรือไม่