สรุปดราม่า “น้ำแข็ง ชญาน์ทัต” หรือ “น้ำแข็ง AF” และภรรยา เจ้าของก๋วยเตี๋ยวแบรนด์ดัง ถูกแฉปมโกงเงินกว่า 50 ล้านบาท
กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการบันเทิงและธุรกิจอาหาร เมื่ออดีตนักร้องชื่อดัง น้ำแข็ง ชญาน์ทัต หรือ น้ำแข็ง AF และภรรยา เจ้าของแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง ถูกผู้เสียหายหลายรายออกมาเปิดใจผ่านรายการ “โหนกระแส” เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าถูกหลอกให้ลงทุนในธุรกิจก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
กลุ่มผู้เสียหายนำโดย “ณัฐ” เจ้าของโรงงานบรรจุภัณฑ์, “ฝ้าย”, “ผ้าแพร AF7”, “แพร” และ “เตือนใจ” ต่างเล่าประสบการณ์ที่ถูกน้ำแข็งและภรรยาอ้างชื่อแบรนด์และโปรเจกต์ลงทุนมาหลอกให้ร่วมธุรกิจและโอนเงินจำนวนมาก แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับเงินคืน หรือไม่ได้รับสินค้าตามที่ตกลงไว้
ฝั่ง “ณัฐ” เจ้าของโรงงานบรรจุภัณฑ์ เผยว่าได้รับการติดต่อจากน้ำแข็งและภรรยาให้ผลิตบรรจุภัณฑ์ก๋วยเตี๋ยวกึ่งสำเร็จรูป แต่เมื่อส่งของไปแล้วกลับไม่ได้รับชำระเงินตามที่ตกลงไว้ และภายหลังพบว่าสินค้าที่ผลิตไปถูกนำไปจำหน่ายโดยที่ตนไม่รู้เรื่อง
ด้าน “ผ้าแพร AF7” เล่าว่าเดิมทีเพียงให้ยืมเงินส่วนตัว แต่ต่อมาถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจ โดยอ้างว่าจะมีออเดอร์จากต่างประเทศและจะได้รับผลตอบแทนเป็นส่วนต่างจากการผลิตสินค้า สุดท้ายกลับถูกหลอกให้โอนเงินหลายล้านบาทโดยไม่มีการคืนเงิน ทั้งยังพบว่าสินค้าที่ตนผลิตถูกนำไปขายแต่ไม่ได้เงินกลับคืนมา
ขณะที่ “ฝ้าย” ดีลเลอร์รายใหญ่ เผยว่าถูกหลอกให้ซื้อสินค้าล็อตใหญ่ในราคาพิเศษ โดยอ้างว่าจะได้โบนัสทองคำจากซัพพลายเออร์ แต่เมื่อสอบถามกลับพบว่าไม่มีโบนัสดังกล่าวจริง อีกทั้งยังถูกขอยืมโฉนดบ้านไปขายฝาก อ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายค่าสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ สุดท้ายกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ และบ้านเกือบถูกยึด
“เตือนใจ” และ “แพร” ซึ่งเป็นดีลเลอร์รายอื่น ๆ ก็ออกมาเปิดเผยว่าถูกหลอกลักษณะเดียวกัน ทั้งการอ้างโบนัส การขอเงินช่วยเหลือชั่วคราว และการส่งของไม่ครบ รวมมูลค่าความเสียหายของแต่ละคนตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท
หลังจากกระแสข่าวดังกล่าว “น้ำแข็ง AF” ได้ออกมาชี้แจงในรายการ “โหนกระแส” วันที่ 6 พฤศจิกายน โดยยอมรับว่าธุรกิจมีปัญหาจริง และตนเพิ่งเข้ามาช่วยภรรยาบริหารได้ไม่นานในช่วงที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน พร้อมอ้างว่ามีปัญหาทุจริตภายในและการบริหารงานผิดพลาดจนทำให้ระบบการเงินล้มเหลว
น้ำแข็งยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจโกงใคร และพร้อมจะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด เพียงแต่ขอเวลาทยอยชำระคืน พร้อมเปิดเผยว่าบางยอดได้เริ่มจ่ายคืนไปแล้วบางส่วน ขณะที่ทนายความของเขาระบุว่ากำลังรวบรวมหลักฐานและวางแผนชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ทุกราย
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายหลายรายยังคงไม่เชื่อในคำชี้แจง และยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายทั้งหมดในคดีนี้อาจสูงถึง 50 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ทางบริษัท “เลอรส” ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของน้ำแข็งและภรรยา ก็ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในข่าวบางส่วนไม่ตรงตามความจริง และบริษัทอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงอย่างเป็นทางการ พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

