หมอดังแฉ! ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ไม่เคยจ่ายค่ารักษาสัตว์ช้างสีดอบุญมี

ความจริงสุดเลวร้าย!ของ ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ 2565 หมอดัง แฉ ที่นี้ไม่เคยจ่ายค่ารักษา ช้างสีดอบุญมี จากช้างเชื่องกลายเป็นช้างดุไม่มีใครรักษา

จากกรณีสภาพช้างและสัตว์ที่ทรุดโทรมมาก ประกาศขอเรียกร้องขอความช่วยเหลือแก่ช้าง 4 เชือกใน ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ให้ได้รับการขนย้ายออกมารักษาทุกเชือก เพราะช้างอดอยาก เจ็บป่วย ผูกกับหลักยาวนาน จนโซ่บาดลึกเข้าไปในเนื้อข้อเท้า และสภาพช้างทรุดโทรมมาก นี่คือความทุกข์ทรมานยาวนาน ระดับโหดเหี้ยมที่ช้างต้องอยู่ในสภาพนี้หลายปี จึงเหลือน้ำหนักตัวเพียง 2 ตัน ผอมโซ อ่อนแรง เจ็บป่วย ทรุดโทรมทุกเชือก โทรมมากทุกเชือก

ใน ชีวิตสัตว์ ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ 2565 ไม่ได้มีเพียงแต่ช้างเท่านั้นยังมีสัตว์อื่น ๆ จำนวนมากที่เคยถูกร้องเรียนมาหลายครั้ง วันนี้จาก ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ คือสถานที่ของสัตว์ แต่กลับกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุดของสัตว์ จนเกิดเป็นเทรนในทวิตเตอร์ #ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ เพราะ สัตว์นั้นพูดไม่ได้ จึงทำให้ยิ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก

ตีแผ่ความจริง ชีวิตสัตว์ ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ 2565

ล่าสุด สัตวแพทย์ชื่อดังอย่าง เผด็จ ศิริดำรง ก็ได้ออกมาตีแผ่ความจริงที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าในก่อนหน้านี้ ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ไม่เคยจ่ายค่ารักษาพยาบาลของสัตว์อย่าง ช้างสีดอบุญมี เลยโดยได้ระบุข้อความดังนี้

เรื่องมันยาวหน่อยนะครับ
เจ้าของฟาร์มจระเข้ฯ เค้าคงโกรธผม ที่เรื่องราวลุกลามใหญ่โต ตอน สีดอบุญมี มีปัญหาหนักช่วงปลายเดือนที่แล้ว เจ้าของได้ติดต่อผมมา บอกว่า ช้างสีดอบุญมี หนักไม่ถึงสองตัน อายุ 18 ปี เคยเป็นช้างแสดงโชว์ ตอนนี้เป็นช้างดุ ถูกล่ามไว้ตลอด ไม่มีควาญมานาน มีโซ่ล่ามมัดขา กินเข้าไปในเนื้อ ติดเชื้อ มีแผลหนองเน่า ไม่มีใครเข้าไปใกล้ได้ เพราะดุ ไม่มีควาญ และกลัวอันตราย ผมอยู่พัทยา ก็แจ้งเค้าว่า ที่ฟาร์มจระเข้ไม่มีหมอประจำอยู่เลยเหรอ เพราะปกติ สวนสัตว์สาธารณะ จะต้องมีสัตวแพทย์สวนสัตว์ของเค้าดูแล เป็นไปตามกฎหมาย หรือแจ้งไปที่ปศุสัตว์ หรือ จนท.กรมอุทธยานฯ ในพื้นที่สมุทรปราการ ให้หมอหน่วยงานรัฐ เข้าไปดูแล

เพราะผมเป็นเอกชน อยู่พัทยา อยู่กันคนละเขต ควรติดต่อ หาหมอในพื้นที่ หรือ จนท.รัฐ ที่ดูแลสวนสัตว์ ในพื้นที่นั้นก่อน

ในช่วงโควิด ถึงผมจะออกไปช่วยเหลือช้างตามที่ต่างๆ เป็นจิตอาสา ช่วยเหลือร่วมมือกับทางสมาคมสหพันธ์ช้างไทยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นปางช้างที่ทิ้งร้าง เจ้าของปางช้าง หรือควาญ เจ้าของช้างที่ประสบปัญหา ไม่มีรายได้ ที่เค้าประสบปัญหาหนัก โดยที่ตัวผมเอง ไม่ขอรับเปิดระดมทุน หรือขอรับบริจาค เพราะไม่อยากปวดหัว หรือถ้าจะบริจาคก็บริจาคเข้าช่วยเหลือสมาคมสหพันธ์ช้างไทย จะดีกว่า เพราะการรักษาช้าง ค่ามีใช้จ่ายค่อนข้างสูง หรือไปบริจาคอาหาร สิ่งของ หรืออื่นๆ โดยตรงกับเจ้าของช้างคุยกันเองเลย

ที่หาหมอรักษาช้างได้น้อยคน ไม่ค่อยใครอยากมาเป็นหมอช้าง เพราะ รายได้น้อย รายจ่ายสูง ทำงานหนัก และเสี่ยงอันตราย รักษาสัตว์เล็กดีกว่า รายได้ดีด้วย

เจ้าของฟาร์มจระเข้ เค้าก็โทรติดต่อมาหลายรอบ บอกว่าติดต่อไปแทบจะทุกที่แล้ว แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือจัดการเลย ขอร้องให้ผมยิงยาช้าง รักษา แล้วให้คิดค่าใช้จ่ายเค้าด้วย อยากให้แก้ไขเรื่องโซ่ล่ามที่รัดข้อเท้า และรักษา ผมเลย แจ้งไปว่า วันที่ 1/7/65 ถึงจะสะดวก ออกเดินทาง เข้าไปช่วย เพราะคิดว่าถ้าไม่มีใครเข้าไปดูแล สีดอบุญมี มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก ในเวลาไม่นาน

แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่า เจ้าของฟาร์มเค้าจะจ่าย เพราะในอดีต เค้าก็ไม่เคยจ่ายเงินผม เพราะทุกรอบที่สัตว์ของเค้ามีปัญหา ก็จะโทรมาแล้วส่งลูกน้อง มารับยา มาขอนั่นนี่ เป็นมาหลายปี แล้วก็ไม่จ่ายเงินเลย ซึ่งเค้าก็แจ้งมาตลอดว่าให้ทำบิลคิดเงินค่ายาค่ารักษาด้วย เดี๋ยวจะเคลียร์ให้ แต่ก็ไม่เคยชำระค่าใช้จ่าย ทั้งๆที่เป็นสวนสัตว์เอกชนขนาดใหญ่ เค้าเคยเปิดที่ปางช้าง และฟาร์มจระเข้รับนักท่องเที่ยวที่ ต.ห้วยใหญ่ ใกล้พัทยา ซึ่งผมก็ไม่เคยติดต่อทวงถาม หรือต่อว่าอะไร ก็ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด

เพราะผมยึดเอาช้างเป็นที่ตั้ง ทีมงานลูกน้องจิตอาสา ที่ติดตามเข้าไปด้วย เตือนผมว่า ถ้าช้างเชือกนี้ล้มระหว่างการเข้าไปยิงยารักษา ผมมีสิทธิโดนเค้าฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายที่ทำช้างตาย ตามมูลค่าช้าง หลักล้านบาท ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากสภาพช้างที่ทรุดโทรม ขาดสารอาหาร มีแผล ติดเชื้อค่อนข้างน่าเป็นห่วง แล้วยังดุด้วยจำเป็นต้องยิงยาซึม แต่ผมบอกว่าถ้าเราไม่ทำ ก็หาหมอมาทำไม่ได้ เลยบอกลูกน้องว่าเป็นไงเป็นกัน อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด โชคดี ที่สีดอบุญมี ไม่ตาย ในวันนั้นหลังเข้าไปแก้ไขปัญหา ก็จัดยาทำแผล จัดยาฉีดรักษาต่อ เนื่อง ฝากไว้กับลูกน้องเค้า สอนคนดูแลช้างที่นั่น เรื่องการรักษาต่อเนื่องในวันถัดๆไปด้วย

พอลงเฟสไปเมื่อวันที่ 1/7/65 มีคนใจบุญอยากช่วยเหลือช้าง เค้าติดต่อมา แจ้งผมว่า อยากนำอาหาร ผลไม้ ไปช่วยเหลือช้างที่ผอมโซ ไม่รู้ว่าช้างอยู่ที่ไหน ผมเลยให้เบอร์โทร บอกว่าให้ติดต่อสอบถามกับทางเจ้าของฟาร์มโดยตรงกันเองเลย

ตอนที่พอทางผู้ที่ลงขันบริจาค นำอาหารช้าง รอบแรกขนไปรถกระบะ ไปให้ถึงที่หน้าฟาร์มฯ เค้าไม่รับ คนที่นำอาหารช้างไปให้เลยแจ้งเจ้าของฟาร์มว่า หมอหนึ่งฝากอาหารมาให้ช้าง เค้าจึงยอมรับของ แต่ให้นำไปถ่ายของไว้ที่หน้าฟาร์ม แล้วจะให้คนงานของเค้าทยอยขนเข้าไปเอง ไม่ได้ให้เข้าไปหาช้างในฟาร์มและรอบที่ 2 นำอาหารช้างไปให้ เต็มรถบรรทุก 10 ล้อ และรถกระบะ แต่เค้าก็ให้ถ่ายของที่หน้าฟาร์ม ไม่ให้เข้าไป เหมือนเดิม แต่ให้คนงานของเค้า ขนเข้าไปเองเหมือนเดิม

หลังจากนั้น อีกหลายวัน เรื่องก็เป็นข่าวขึ้นมา เพราะทางหน่วยงานภาครัฐที่ดูแล เข้าตรวจสอบสถานที่นั้น ก็เป็นข่าวตามนั้น เค้าก็โทรมาต่อว่าต่างๆนานา กับทีมจิตอาสา ที่บริจาคนำอาหารไปให้ช้าง และจะโทรมาต่อว่าผม แต่ผมไม่รับสาย เพราะยังติดพันงานรักษาสัตว์อยู่ ต่อมาคนที่ถูกต่อว่า เค้าโทรหาผมว่าเค้าพูดว่าอะไรบ้าง หลังจากนั้น ทางเจ้าของช้างก็โทรหาผมอีก 2-3 รอบ แต่ผมไม่ได้รับสาย เพราะคิดว่าเค้าคงจะกล่าวโทษผม เลยไม่อยากคุยด้วย เอาเวลาไปทำงานรักษาสัตว์ต่อ จะดีกว่า รับสายแล้วทำให้ตัวเองจิตตก หมดกำลังใจทำงานปล่าวๆ
เรื่องราวทั้งหมด ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ