กรณี นักเรียน อายุ 5 ขวบ แขนหักผิดรูปตั้งแต่ช่วงพักเที่ยง โรงเรียนไร้การช่วยเหลือ คุณครู อ้าง เห็นแล้วแต่ไม่ได้พาไปหาหมอเพราะเด็กไม่ร้อง
จากกรณีภาพเด็ก นักเรียนแขนหักผิดรูป ที่ดังไปทั้งโซเชี่ยลเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ด้านผู้ปกครองได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรหลาน เนื่องจาก เมื่อสอบถามความจริงแล้ว คุณครู ที่โรงเรียนทราบเรื่องที่ นักเรียนแขนหัก ตั้งแตช่วงเที่ยง แต่ไม่ได้เข้าช่วยเหลือ อ้าง เพราะเด็กไม่ร้องข้อความช่วยเหลือจึงไม่ได้พาส่งโรงพยาบาล
ล่าสุดเพจดังอย่าง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 ได้ออกมาโพสต์หลักฐาน ร่วมถึงการที่ผู้ปกครองได้เจรจากับทางโรงเรียน แต่กลับได้คำตอบที่ไม่เป็นที่น่าพอใจนัก โดยระบุข้อความว่า
สรุปเรื่อง เด็ก 5 ขวบแขนหัก
แขนน้องหักตั้งแต่เที่ยง..แต่ไม่ได้ไป รพ. เป็นไปได้คุณครู
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.กรรณิการ์ คำโส อายุ 42 ปี ชาว หมู่ 1 ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ โดยได้พา น้องเตเต้ อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้น อนุบาล 3 โรงเรียนบ้านโคกสูง คูขาด ซึ่งเป็นหลานของตัวเองมาให้ผู้สื่อข่าวดูสภาพแขนซ้ายที่เข้าเฟือก เพราะแขนหัก
น.ส.กรรณิการ์ เล่าว่า ตนมีศักดิ์เป็นอา เกิดเหตุวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตอนเย็นตนได้บอกให้พี่ชาย ไปรับหลานที่โรงเรียน เพราะยังอยู่ในที่ทำงาน ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันกับโรงเรียน เวลาประมาณ 16.00 น. พี่ชายวิ่งมาบอกว่า “หลานแขนหัก” ตนจึงรีบกลับมาดูน้องที่บ้าน
ยอมรับว่าตกใจมากเมื่อเห็นสภาพหลาน เพราะน้องร้องไห้หนักมาก บอกเจ็บแขน แขนซ้ายน้องหักผิดรูป เมื่อสอบถามหลานบอกว่าแขนหักตั้งแต่ตอนเที่ยงวัน ตนจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง บุรีรัมย์
วันต่อมาตนได้ไปถาม ผอ.ที่โรงเรียนว่าเกิดอะไรขึ้น ได้รับคำตอบครูประจำชั้นแบบแทบน้ำตาไหลว่า เห็นตั้งแต่ตอนเที่ยง แต่เด็กไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้ขอความช่วยเหลือวันต่อมา ทั้ง ผอ.และครูประจำชั้น นำกระเช้ามาขอโทษที่บ้าน บอกว่าทางโรงเรียนจะเยียวยาที่ปล่อยปละละเลยเด็ก จนกระทั่ง ผอ.เป็นคนสรุปว่าจะขอจ่ายเงินเยียวยาให้เป็นจำนวนเงิน 55,000 บาท ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่เด็ก นัดจ่ายเงินในวันที่ 20 มิ.ย. ส่วนหนึ่งครอบครัวรู้สึกเห็นใจโรงเรียน จึงตกลงกันว่า จะมอบเงินจำนวน 20,000 บาท คืนให้โรงเรียนไว้ไปซื้อกล้องวงจรปิด
- เมื่อถึงวันที่ 20 มิ.ย.ได้นัดกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ทางครอบครัวได้เตรียมเงินจำนวน 20,000 บาท ใส่ซองไว้เตรียมมอบให้ ผอ.เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อไปถึงที่นัดหมาย ผอ.และคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมครูประจำชั้น มากันพร้อมหน้า สุดท้าย ผอ.เป็นคนเอ่ยปากเองว่า “ไม่มีเงินแม้บาทเดียว” ถ้าอยากได้ก็ต้องไปฟ้องเอา
น.ส.กรรณิการ์ กล่าวด้วยว่ารู้สึกผิดหวังของการบริหารของโรงเรียน สิ่งที่ยังคาใจไม่หายคือ เด็กแขนหักในโรงเรียนขนาดนั้น ทำไมครูไม่รู้ไม่เห็น แต่ทำไมเพื่อนหลานรู้กันทั้งห้อง แล้วสภาพของหลานคือแขนหักไม่ใช่ปวดท้อง มองด้วยตาเปล่าเห็นชัดเจน อีกทั้งยังไม่พาเด็กไปหาหมอ ไม่แจ้งผู้ปกครองทราบ ปล่อยเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง จนหมอที่โรงพยาบาลทักตอนไปรักษาว่าทำไมปล่อยไว้นานขนาดนี้ เพราะอันตรายแขนอาจจะได้รับผลกระทบหลังรักษาหายแล้ว
ตอนนี้ครอบครัวได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ที่ สภ.หนองกี่ไว้แล้ว แต่เรื่องยังเงียบอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวอยากจะให้เป็นกรณีศึกษา ว่าครูผู้สอนควรจะใส่ใจกับเด็กนักเรียนอย่างไร ผู้บริหารควรจะมีมาตรการอย่างไรสำหรับครูที่ไม่สนใจเด็กนักเรียน
#หมดคำพูด!!..
#น้องเตเต้ เด็กอนุบาล 3 อายุแค่ 5 ขวบ แขนซ้ายหักผิดรูป บิดงออย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ตอนเที่ยง โรงเรียนไม่พาไปหาหมอ ไม่แจ้งผู้ปกครอง กระทั้ง 4 โมงเย็นเด็กกลับบ้าน น.ส.กรรณิการ์ คำโส อายุ 42 ปี น้าสาวเห็นแล้วแทบร้องไห้ รีบพาไปส่งโรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง บุรีรัมย์ เมื่อสอบถามไปที่ ผอ.โรงเรียน ได้รับคำตอบจากครูประจำชั้นว่า #เห็นตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว_แต่เด็กไม่ได้ร้องไห้_ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ
วันต่อมา ผอ.โรงเรียนและครูประจำชั้น นำกระเช้ามาขอโทษถึงที่บ้านบอก #จะเยียวยาที่ปล่อยปละละเลยเด็กเป็นเงิน 55,000 บาท นัดจ่ายเงินวันที่ 20 มิ.ย.65 (เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.65) ทางน้าสาวก็รู้สึกเห็นใจโรงเรียน จึงตกลงจะมอบเงิน 20,000 บาท คืนให้โรงเรียนไว้ซื้อกล้องวงจรปิด แต่เมื่อถึงวันนัดหมาย ผอ.โรงเรียน บอก…#ไม่มีเงินถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
