สส.พริษฐ์ วัชรสินธุ ชง 4 ข้อเสนอเร่งด่วน แก้น้ำท่วมภาคใต้ ชี้ ต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน มีฐานข้อมูลกลาง และ กต. ประสานนานาชาติเข้าช่วย
ข่าวการเมือง กรณี สส.พริษฐ์ ชง 4 ข้อเสนอเร่งด่วน แก้น้ำท่วมภาคใต้ โดย วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เฟซบุ๊ก พริษฐ์ วัชรสินธุ – ไอติม – Parit Wacharasindhu โพสต์ข้อความระบุว่า “4 ข้อเสนอเร่งด่วนต่อรัฐบาลเรื่องน้ำท่วมภาคใต้ เพื่อปกป้องชีวิตประชาชน” เช้านี้ ผมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเสนอต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ (และต้องขออภัยที่อาจสื่อสารบางส่วนไม่ครบถ้วน จนทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อต่อเจตนาผมในบางประเด็น)
ผมเห็นว่าภารกิจสำคัญที่สุด ณ เวลานี้ คือการปกป้องชีวิตพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด – หากพูดถึงกรณีหาดใหญ่ ปัจจุบัน จำนวนประชาชนที่อพยพออกมาถึงศูนย์พักพิงแล้ว ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน
ข่าวที่น่าสนใจ
- ช่วยด้วย! ผู้ประสบภัยทำ SOS เลข 30 ติดหลังคา เราอยู่ที่นี่อีก 30 ชีวิต
- อัพเดท น้ำท่วมหาดใหญ่วันนี้ 26/11/68 ภาพมุมสูงระดับน้ำ หาดใหญ่
- อัพเดท น้ำท่วมภาคใต้ 26/11/68 พื้นที่ ภาคใต้ 9 จังหวัด ดับแล้ว 18 ราย
เพื่อให้เกิดความชัดเจน ผมขอย้ำข้อเสนอที่ผมมีต่อรัฐบาล 4 ข้อในวันนี้ ดังนี้ (ซึ่งรวบรวมมาจากหลายภาคส่วน)
1. บูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วนให้ได้ โดยเฉพาะการจัดการระบบฐานข้อมูลกลาง
– หากรัฐบาลจะทำงานและจัดทีมไปในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด รัฐบาลควรจะต้องรู้ว่าจำนวนคนที่ติดอยู่หรือร้องขอความช่วยเหลือมีทั้งหมดกี่คน อยู่ที่พื้นที่ใดบ้าง มีความเสี่ยงระดับใด (เช่น มีกลุ่มเปราะบางไหม) และมีหน่วยหรือทีมไหนที่รับหรือเข้าไปช่วยเหลือเคสดังกล่าวไปแล้วหรือยัง
– ที่ผ่านมา พรรคประชาชน และกองทัพบก ได้หยิบยกแพลตฟอร์ม jitarsa.care ของภาคประชาชนมาใช้ และได้ร่วมมือกับอาสาสมัครกลุ่มคต่างๆ เพื่อนำข้อความขอความช่วยเหลือทั้งหมดเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลดังกล่าว แต่รัฐบาลต้องตัดสินใจให้เร็วว่าจะใช้ฐานข้อมูลไหนเป็นฐานข้อมูลกลางในการบริหารจัดการ
2. เร่งอพยพประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด และต้องระดมทรัพยากรให้เพียงพอต่อการอพยพตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
– ต้นทาง = ระดมเรือ พาหนะและอุปกรณ์ทั้งหมดเท่าที่มี ในการเข้าหาประชาชนที่ติดค้างในแต่ละพื้นที่และอพยพออกมา
– ปลายทาง = เตรียมศูนย์พักพิงให้เพียงพอในการรองรับผู้อพยพที่ออกมา (เนื่องจากเข้าใจว่าบางศูนย์เริ่มจะมีปัญหาเรื่องขีดจำนวนคนที่ดูแลได้และสิ่งของจำเป็น) รวมถึงจัดรถขนส่งเพื่อสนับสนุนเรื่องการเดินทางไปสู่ศูนย์พักพิง
3. เร่งส่งอาหารและน้ำเข้าไปในพื้นที่ให้ถึงมือประชาชนให้มากที่สุด เนื่องจากหลายคนขาดอาหารมาหลายวันแล้ว
– ในเมื่อการอพยพทุกคนให้ออกมาได้ภายในวันนี้อาจมีความท้าทาย รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนที่ยังค้างอยู่เข้าถึงอาหารและน้ำเพื่อความอยู่รอด
– ในเมื่อการเข้าถึงประชาชนผ่านเรือในบางพื้นที่อาจมีข้อจำกัด รัฐบาลต้องระดัมทั้งเฮลิคอปเตอร์และโดรนให้ได้มากที่สุด เพื่อสนับสนุนภารกิจดังกล่าว
4. ประสานกับรัฐบาลและภาคเอกชนต่างประเทศ เพื่อระดมทรัพยากรมาเสริมในส่วนที่เรายังมีไม่พอหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
– เช่น ประสานกับรัฐบาลต่างประเทศ เพื่อระดมอุปกรณ์ที่เรายังขาดแคลนในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ (เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่อาจพร้อมสนับสนุนอุปกรณ์เนื่องจากประเทศเขามีนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ในพื้นที่เช่นกัน)
– เช่น ประสานกับ Starlink เพื่อขอสนับสนุนเรื่องสัญญาณอินเตอร์เน็ต – แม้การมีอินเทอร์เน็ตคงไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่และมือถือแบตหมด แต่อินเทอร์เน็ตจะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ในส่วนของพรรคประชาชน ที่ผ่านมา เรามีการแบ่งทีมสนับสนุนออกเป็น 2 ส่วน
1. ทีมในพื้นที่ (นำโดย สส. ภคมน และทีมงานจังหวัด) ที่ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการช่วยอพยพและส่งของให้ประชาชน
2. ทีม war room ส่วนกลาง (นำโดยหัวหน้าพรรค และทีมส่วนกลาง) ที่ทำงานร่วมกับฝ่ายเทคโนโลยีและอาสาสมัครในการรวบรวม จัดระบบ และส่งต่อข้อมูลขอความช่วยเหลือจากประชาชน + ประสานทรัพยากรที่จำเป็นเข้าไปในพื้นที่
ผมขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่และอาสาสมัครทุกคนหน้างาน และขอให้ประชาชนทุกคนปลอภัย “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะรับ 4 ข้อเสนอนี้ไปดำเนินการ เพราะทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิตประชาชนจริงๆครับ”