วันช้อปปิ้งแห่งชาติ 11.11 นี้เป็นวันพิเศษวันหนึ่งขงปีนี้เลยทีเดียว เพราะไทยคือวันเพ็ญเดือน 12 หรือลอยกระทง ทางฝั่งประเทศจีนเขาจะเรียกว่าวัน “คนโสด” ( กวั่งกุ่ยเจี๋ย 光棍节 หรือ Singles Day) เพราะมีเลข 1 ถึงจำนวน 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งวัยรุ่นแดนมังกรเริ่มต้นกิจกรรมนี้มาตั้งแต่ปี 2533 จากวงแคบในมหาวิทยาลัยสู่วงกว้างและกลายเป็นวัฒนธรรม
เทศกาล กระหน่ำราคา เมื่อห้าง-ร้านขายของจีน เกาะกระแส วันคนโสด 11.11
ในวันดังกล่าวถือว่าเป็นวันสำหรับคนที่เหม็นความรักและในวันคนโสดมันก็เริ่มแพร่หลายมาเรื่อยๆ จนไทยเราเองก็รับวัฒนธรรมนี้มาเช่นเกม และในแต่ละปีมักจะมีกิจกรรมสนุกๆ ให้คนโสดได้ทำตลอดไม่ต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวที่บ้านหากคุณไม่มีแฟน อาทิ การช้อปปิ้ง การลดราคาสินค้า อาหาร การรวมตัวไปแกล้งเพื่อนที่มีคู่ หรือกิจกรรมอื่นๆ อีกหลากหลาย
ถ้าพูดถึงเรื่องการช้อปปิ้งมีหรือที่เจ้าพ่อแห่ง Alibaba อย่าง “แจ็ค หม่า” ได้สบโอกาสเห็นช่องทางการทำธุรกิจเมื่อปี 2552 ด้วยการจัดงานช้อปปิ้งสำหรับคนโสด ในวันที่ 11.11 ณ นครเซี่ยงไฮ้ 1 ในเมืองการค้าของจีนและเพียงในนาทีแรกที่กิจกรรมดังกล่าวเริ่มขึ้นก็มียอดเงินสะพัดทะลุ 1,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 30,000 ล้านบาท
และนั่นเป็นเพียงนํ้าจิ้มเพราะผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง 48 วินาที่ ยอดขายสินค้าลดราคาก็พุ่งสูงเกินหลัง 10,000 ล้านดอลล่าร์หรือ 300,000 บาททันที แถมยังแซงหน้ายอดขายสูงกว่าวัน Black Friday และ Cyber Monday ของชาวตะวันตกทั้งที่จัดมานานกว่าเป็นหลาย 10 ปีเลยด้วย และนับแต่นั้นไม่ว่าจะเป็น Alibaba หรือคอมเมิร์ซอื่นอย่าง Tmall, Shoppee และอื่นๆก็มีโปรในวันนี้ด้วยเช่นกัน
จากนั้นมันทำให้วันคนโสดของจีนกลายเป็น “วันล้วงกระเป๋า” (ตั้วเฉี่ยวรื่อ 剁手日 หรือ hand-chopping day) เพราะโปรโมชั่น ส่วนลด และสินค้าที่ถูกนำมาเสนอ แทบจะทำให้นักช้อปปิ้งอดใจไม่ไหวที่จะต้องล้วงกระเป๋าเงินออกมาซื้อของทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้ประเทศในเอเชียรวมถึงฝั่งตะวันตกต้องปรับตัวตาม (แต่ไม่ใช่วันล้วงกระเป๋าคนอื่นนะครับ 555)
ถึงแม้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะดูเฟื่องฟูมาเรื่อยๆ แต่ปีก่อนทางสำนักข่าวใหญ่ CNN เผยถึงเรื่องการช้อปของวันคนโสดนั้น อยู่ในช่วงที่การเติบโตทางธุรกิจของ Alibaba ถูกกดดัน และบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหม่ก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะหอกข้างแคร่คือ Shoppee ในเครือ Tencent ของ “โพนี่ หม่า” ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
ส่วนฝั่งสหรัฐอเมริกาเองแม้จะเป็นลูกหนี้กันอยู่แต่พวกเขาก็พร้อมที่เข้าสู้ศึกสงคราม 11.11 ด้วยเช่นกัน ทำให้มีการคาดการณ์ว่ารายได้ของ Alibaba จะลดลงไปถึงร้อยละ 6 ซึ่งเหมือนว่าจะกระเทือนอยู่บ้าง แต่ในท้ายสุดพวกเขาก็สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 30,000 ล้านดอลล่าร์หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 900,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
พอพูดถึงในไทยแบรนด์ดังต่างๆ ที่เราคุ้นเคยดีจะมีแคมเปญออกมามากมายอย่าง Lazada (เครือ Alibaba) มี “Lazada 11.11 Biggest One Day Sale” ฝั่ง Shoppee (Tencent) มี “Shopee 11.11 Big Sale” ด้านน้องเล็กอย่าง JD.com ปีนี้ชูคอนเซ็ปต์ “อยากได้ต้องได้!” เปิดให้เหล่าขาช้อปได้มือสั่นกันบ้าง เพราะกว่า 20,000 แบรนด์ทั้งไทย-ต่างประเทศ ต้องการทำยอดกำไรเช่นกัน
ท้ายนี้กล่าวได้ว่าว่าที่ 11.11 จากวันคนโสดกลายเป็นวันช้อปปิ้งแห่งชาติ แห่งโซนเอเชียะวันออก แห่งทวีปเอเชีย และทั่วโลกเป็นที่เรียกร้อย สรุปคือจากจุดเริ่มต้นของวิสัยทัศน์ของ แจ็ค หม่า สามารถเปลี่ยนวันคนไร้คู่ที่มีมานานกลับมาเป็นหนึ่งในวันที่เงินเดินสะพัดมากที่สุดในรอบปี จนทำให้เหล่าผู้คนต้องตื่นตัวเพื่อที่จะหาของขวัญพิเศษให้ตัวเองหรือคนที่รักได้ในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.forbes.com/sites/jonbird1/2018/11/12/11-insights-from-1111-the-worlds-1-shopping-day/#60079b7917fc
https://vulcanpost.com/593870/alibaba-singles-day-record-breaking/
https://edition.cnn.com/2018/11/10/tech/alibaba-singles-day/index.html
ทุบสถิติใหม่ Alibaba เผยตัวเลขยอดซื้อคิดเป็นเงินไทย 1.1 ล้านล้านบาท