จากกรณีสาวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ว่าถูกนายภูริวัฒน์ อายุ 27 ปี พนักงานเป็นผู้นวดกระทำอนาจารและทำการข่มขืน แต่เรื่องนี้ยังเกิดข้อสงสัยอย่างมากว่า เป็นการสมยอมหรือข่มขืน เนื่องจากไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดของผู้เสียหาย
ล่าสุด พันตำรวจโท พิษณุพล เดชศรี สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจทองหล่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบภาพคลิปที่อยู่ในกล้องวงจรปิดของร้านที่ตำรวจขอมาแล้ว พบว่า หลังจากที่นักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ผู้เสียหายที่ใช้บริการนวดเสร็จแล้ว ได้ลงมาชำระค่าบริการที่เคาน์เตอร์ บริเวณชั้น 1 ของร้าน ภาพตามในคลิปไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ที่สื่อว่า ถูกกระทำอนาจาร หรือถูกข่มขืนา โดยยังมีท่าทีตามปกติ เหมือนลูกค้าทั่วไป รวมถึงยังมีการให้ทิปกับพนักงานชายคนดังกล่าวด้วย ซึ่งตำรวจจะเร่งสอบพยานเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดข้อเท็จจริง โดยเฉพาะลูกค้าที่มาใช้บริการในช่วงเวลาที่เกิดเหตุด้วย เนื่องจากพยานที่มีส่วนใหญ่เป็นพนักงานร้านนวดเท่านั้น จึงอาจจะไม่มีเกิดความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้(18 เม.ย.) พนักงานสอบสวนได้นัดผู้เสียหาย และเพื่อนของผู้เสียหายเข้าสอบปากคำเพิ่มเติม โดยจะมีเจ้าหน้าที่อัยการร่วมสอบสวนด้วย เป็นการสืบพยานล่วงหน้า ที่สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ สำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจากนักท่องเทียวสาวไต้หวันจะเดินทางกลับไปยังประเทศ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนก็จะเรียกผู้นต้องหา รวมถึงพยามต่างๆเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติมด้วย หลังจากที่แจ้งความผู้ต้องหาที่ก่อเหตุไป 2 ข้อหา คือ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี และข่มขืนนกระทำชำเราผู้อื่น
ขณะที่ เจ้าของร้านนวด ระบุว่า ขณะนี้กำลังรอการสอบสวนด้านคดี หากมีการข่มขืนจริง ก็คงจะต้องไล่พนักงานออก แต่หากไม่ได้ข่มขืน ทางร้านก็เตรียมจะฟ้องลูกค้าคนดังกล่าว เพราะเป็นข่าวใหญ่บนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ประเทศไต้หวัน ที่ทำให้ทางร้านเสียชื่อเสียงอย่างมาก เพราะที่ร้านมักจะมีคนต่างชาติมาใช้บริการ และเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 20 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางเข้าตรวจสอบร้านนวดดังกล่าวว่า เข้าข่ายกระทำความผิดใดหรือไม่ เช่น ใบอนุญาต และสถานที่ รวมถึงการให้บริการ หลังเกิดคดีความขึ้น