อิทธิพลจากพายุ ‘ด็อมเร็ย’ ทำให้สภาพอากาศของประเทศไทยค่อนข้างแปรปรวน ภาคใต้มีฝนถล่มหนัก ส่วนภาคอีสานมีอากาศหนาวสลับกับพายุฝนเป็นระยะๆ
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 05 พฤศจิกายน 2560 เรื่อง “พายุ “ด็อมเร็ย” (DAMREY) และฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560)” ความว่า
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (5 พ.ย. 60) พายุดีเปรสชัน “ด็อมเร็ย” (Damrey) ที่ปกคลุมบริเวณประเทศกัมพูชา มีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงพนมเปญ ประมาณ 150 กิโลเมตร กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป
ทั้งนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรง ในบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังคลื่นซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
และขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก มีลมหนาวพัดมาเป็นระลอกในช่วงเช้า และมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนที่เดินทางในช่วงเช้า ต้องประสบกับความหนาวเย็น และฝนตก
สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ลักษณะอากาศที่แปรปรวนวันนี้ (5 พ.ย. 60) เกิดจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ประกอบกับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่น “ด็อมเร็ย” (Damrey) ที่ปกคลุมบริเวณประเทศกัมพูชา ซึ่งขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ซึ่งพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบทางอ้อม ทำให้มีฝนเกิดขึ้นบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในช่วงวันที่ 5-6 พ.ย. และมีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา
ทำให้ช่วงนี้ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส โดยอากาศจะหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส มีลมแรงโดยทั่วไป และมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว จึงให้ประชาชนระมัดระวังอาการเจ็บป่วยไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 4-8 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้มีฝนตกเล็กน้อยในระยะแรก แต่หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมพัดแรง.
ส่วนในช่วงวันที่ 7-11 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง