คดีข่มขืนสาวชาวไต้หวันที่ยังไม่กระจ่างนักว่า เป็นการขืนใจหรือสมยอมระหว่างกัน เพราะในวันเกิดเหตุ เมื่อสาวไต้หวันใช้บริการแล้วก็ยังมาชำระค่าบริการ และยังทิปให้กับพนักงานชายคนดังกล่าวด้วย และไม่มีท่าทีที่ถูกกระทำอนาจาร ก่อนที่จะไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น แม้เจ้าหน้าที่จะตั้ง 2 ข้อหาพนักงานนวดชาย ใน 2 ข้อหา ล่าสุด เจ้าของร้านได้สั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าวแล้ว และกำลังรอการพิสูจน์ข้อเท็จจริง จากตำรวจที่จะสอบปากคำของทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 18 เมษายนนี้
โดยทีมข่าวไปสำรวจที่ร้านนวดแผนไทย ย่านซอยสุขุมวิท 23 หลังเกิดคดีที่พนักงานนวดชาย ก่อเหตุข่มขืนลูกค้าที่เป็นสาวชาวไต้หวันที่มาใช้บริการเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา โดยสาวชาวไต้หวันได้เข้าแจ้งความไว้กับ สน.ทองหล่อ
บริเวณ 2 ชั้นของร้านแห่งนี้ คือจุดที่นักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันถูกกระทำอนาจารและข่มขืน โดยทีมข่าวไบรท์นิวส์ ได้รับอนุญาตจากเจ้าของร้าน เพื่อมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง และสถานที่จริง พบว่า ภายในบริเวณชั้น 2 ของร้านนั้นเป็นกระจกใส มีเตียงนอนนวดประมาณ 6 คนเรียงกันอยู่ โดยจุดที่เกิดเหตุ คือที่นอนนวดติดริมกระจก หากขึ้นจากชั้น 2 ก็จะเห็นทันที
ทั้งนี้ แม้บรรยากาศภายในร้านจะดูมืด เหมือนกับร้านนวดแผนไทยทั่วไป แต่เมื่อขึ้นไปชั้น 2 ที่เป็นห้องกระจกซึ่งมองเห็นได้ แต่หากส่งเสียง หรือเดินขึ้นเดินลง ก็จะได้ยินเสียงถึงชั้นล่าง เนื่องจากร้านปูด้วยพื้นไม้ โดยในวันนี้มีหมอนวดให้บริการ ประมาณ 5 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงมีอายุ ซึ่งชำนาญในการนวดแผนไทย 3 คน และพนักงานต้อนรับเป็นชาย 2 คน ภายในร้านส่วนใหญ่ พบชาวต่างชาติ เช่น ชาวจีน ญี่ปุ่น มาใช้บริการ เป็นส่วนใหญ่ต้องการนวดเพื่อรักษาและมีชาวต่างชาติมารอคิว และเข้ามาสอบถามขอคิวเป็นระยะๆ
จากการโทรศัพท์สอบถามเจ้าของร้านนวดแห่งนี้ ที่ยังพักผ่อนอยู่ต่างจังหวัด เปิดเผยว่า เปิดร้านแห่งนี้มานานกว่า 20 ปี ตั้งใจเป็นเปิดร้านนวดเพื่อรักษา ไม่ได้มีการให้บริการทางเพศอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตแต่อย่างใด
เบื้องต้นทางร้านได้พักงาน นายภูริวัฒน์ ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวันแล้ว เพื่อรอพิสูจน์จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง เพื่อให้ความจริงปรากฏ และหากผิดจริงก็พร้อมยอมรับ
สำหรับคดีนี้ พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาใน 2 ข้อหาคือ “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี และข่มขืนนกระทำชำเราผู้อื่น” และจะเรียกสอบพยานทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายนนี้ ก่อนที่สาวชาวไต้หวันจะบินกลับประเทศ