กรณีเมื่อช่วงสายวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจบุกบ้านพักท้ายซอยเพชรเกษม47 ย่านบางแค จับกุมนายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ อายุ40 ปี ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ อายุ22 ปี ใส่หีบจนเสียชีวิต ก่อนเรียกนายเฉลิมชล งะบัว อายุ51 ปี เพื่อนสมัยติดคุก มาช่วยนำศพไปฝังดินในพงหญ้าหลังบ้าน
ซึ่งผู้ตายหายตัวไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 มกราคม ที่บ้านพักท้ายซอยเพชรเกษม47 พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส.บช.น.และ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น. ประสานนักประดาน้ำมูลนิธิป่อเต็กตึ๋ง แพทย์เวชนิติเวช รพ.ศิริราช เข้าตรวจค้นบึงน้ำพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ที่หลังบ้านของนายอภิชัย เนื่องจากได้รับแจ้งจากพยานว่ามีศพอีก 2 ศพถูกทิ้งไว้ ผลการตรวจค้นราว 3 ชั่วโมง พบโครงกระดูกถูกเหล็กรูปวงกลมน้ำหนักราวร้อยกิโลกรัม ทับไว้เพื่อไม่ให้ลอยขึ้นมา พบชิ้นส่วนซี่โครงมนุษย์ กระดูกต้นขา เสื้อผ้า ผ้าห่ม และดับเบิลเหล็กพันด้วยโซ่ใส่แม่กุญแจ
พ.ต.อ.จิรกฤต เปิดเผยว่า จากการสอบพยานที่เป็นเพื่อนร่วมเสพยากับนายอภิชัย ระบุว่าได้นำศพหญิงสาวมาทิ้งบ่อปลาข้างบ้าน 2 ศพ และฝังดินอีก 1 ศพ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ควานหากระทั่งวันนี้พบศพเพิ่มอีก 1 ศพถูกถ่วงไว้ในบ่อน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล เพื่อดูว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เนื่องจากเชื่อว่าอาจเสียชีวิตมาแล้วเป็นปี
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่นำมาสู่การตรวจค้นริมน้ำอีกครั้ง มาจากนายเอ็ม ซึ่งเป็นเพื่อนนายไอซ์ ได้ให้ปากคำกับตำรวจว่า เมื่อประมาณเดือนธันวาคมปี2561 ตนและนายไอซ์ ได้พ้นโทษออกจากคุกมา และมาเสพยาด้วยกันที่บ้าน จากนั้นนายไอซ์ ได้กลัวความผิดที่อำพรางศพไว้ 2 ศพ และบอกกับตนว่าให้ลงไปช่วยงมศพในบ่อ และจะให้เงินศพละ 5,000 บาท เมื่อนายเอ็มลงไปงมและพบกระโหลกมนุษย์ เมื่อนำขึ้นมานายไอซ์ กลับปฏิเสธที่จะให้เงิน บอกว่ามีแต่กระสุนปืนให้ และยิงปืนสวนมาถากหู นายเอ็มจึงวิ่งหนีไป และไม่รู้ว่านายไอซ์ได้นำกระโหลกไปทิ้งไว้ที่ใด
