หากเราเชื่อว่าสิ่งที่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์มารดาคือหนึ่งชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว การ “ทำแท้ง” ก็คงไม่ต่างกับการฆ่ามนุษย์คนหนึ่งให้ตายไป แต่หากเรามองเห็นสิ่งที่อยู่ในครรภ์ ว่าเป็นเพียงตัวอ่อนที่ยังไม่มีความรู้สึกนึกคิดใด ๆ การทำแท้งจึงไม่ใช่เรื่องผิดบาปใด ๆ ดีกว่าปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องอุ้มครรภ์ ทั้ง ๆ ที่เธอต้องเผชิญกับปัญหาจากความไม่พร้อม ประเด็นข้างต้นยังคงเป็นคำถามจี้ “มโนธรรม” ที่สังคมต้องหาคำตอบร่วมกัน
จากการเปิดเผยของสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 พบว่า ในช่วง 1 ตุลาคม – 30 มิถุนายน 2561 สายด่วนได้ให้คำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม ทั้งสิ้นรวม 52,370 ราย และพบว่ามีผู้รับบริการวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเพิ่มมากขึ้นทุกปี คิดเป็นร้อยละ 30.1 ของผู้รับบริการทั้งหมด ซึ่งผู้รับบริการร้อยละ 89.7 ได้ทางเลือกที่ชัดเจนหลังปรึกษา โดยร้อยละ 6.2 เลือกตั้งครรภ์ต่อ ในขณะที่ร้อยละ 83.5 เลือกยุติการตั้งครรภ์ ซึ่ง 1663 ได้ส่งต่อบริการยุติการตั้งครรภ์ไปยังหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชนภายใต้กฎหมายและข้อบังคับของแพทยสภา
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยว่า ผู้รับบริการ 28 รายที่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ ภายใต้ข้อกฎหมายและเกณฑ์ทางการแพทย์แต่กลับถูกปฏิเสธให้บริการ เช่น กรณีตัวอ่อนในครรภ์พิการ การตั้งครรภ์นั้น ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตของผู้เป็นแม่ หรือแม่อายุต่ำกว่า 15 ปี รวมถึงการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นเพราะถูกกถูกละเมิดทางเพศ
“การปฏิเสธไม่ทำแท้งให้ผู้หญิงกลุ่มนี้ ทำให้พวกเขาไปหาแหล่งบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ปลอดภัย และบางรายสั่งยาจากเว็บไซต์เพื่อยุติการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง ซึ่งมีผู้ใช้บริการสายด่วนถึง 652 รายที่พยายามยุติการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง เช่น การสั่งซื้อยาจากเว็บไซต์ ทำร้ายตัวเองเพื่อให้แท้ง เพราะการตั้ครรภ์โดยไม่พร้อม มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้หญิง ซึ่งสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ภายใต้กฎหมาย แต่กลับถูกปฏิเสธจากบุคลากรสาธารณสุข ส่งผลให้ทุกปีมีผู้หญิงต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย”นายนิมิตร์ กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พบว่า ปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย 11 ราย และรัฐมีค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย 112 ล้านบาท
“จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยบริการด้านสุขภาพมีบริการยุติการตั้งครรภ์ให้กับผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม เพื่อเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยก็มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมได้รับบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย โดยสนับสนุนยาและค่าใช้จ่ายจาก สปสช.ในการจัดบริการ” ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์กล่าว
หลายเคสของการท้องไม่พร้อมอาจจะต้องย้อนกลับไปที่ “การป้องกัน” แต่อีกหลายเคสเป็นความไม่พร้อมที่เกิดขึ้นปัจจัยอื่น ๆ การปล่อยให้ท้องไม่พร้อม หรือจัดให้มีบริการทำแท้งที่เข้าถึงได้และถูกกฏหมายสำหรับหญิงสาวที่ไม่พร้อม เป็นเรื่องที่สังคมต้องหาคำตอบ คุณผู้อ่านมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร