ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 9 ขวบแจ้งความกับตำรวจว่าลูกสาวถูกลุงวัย 61 ปีกระทำอนาจารในป่าอ้อยก่อนที่ชาวบ้านช่วยได้ทัน ล่าสุด นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบประเมินสภาพจิตใจ ด.ญ.9 ขวบ พร้อมเตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลานใกล้ชิดป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย ขณะเด็กเผยถูกอุ้มเข้าป่าอ้อยถอดกางเกงและใช้มือบีบคอจริง ด้าน ตร.ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหารอผลตรวจยืนยันจากแพทย์
(31 ส.ค.60) นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงกับ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) และเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมประเมินสภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงหาแนวทางร่วมกันผู้ปกครองในการดูแลเรื่องสวัสดิภาพและสภาพจิตใจของเด็ก หลังเกิดเหตุชายสูงวัยชื่อ นายทอง (นามสมมติ) อายุ 61 ปี อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันล่อลวงไปกระทำอนาจารในป่าอ้อย แต่โชคดีที่เพื่อนวัยเดียวกันตะโกนให้ชาวบ้านช่วยเหลือทำให้รอดมาได้อย่างปลอดภัยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ เข้าแจ้งความ
จากการสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้น พบว่าเด็กยังมีอาการหวาดผวา ส่วนสภาพร่างกายก็จะได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะได้ร่วมกันทีมสหวิชาชีพสอบสวนตามขั้นตอนอีกครั้ง เพื่อใช้ประกอบในการดำเนินการทางคดี อย่างไรก็ตามเบื้องต้นขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับชายวัย 61 ปี ที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอผลตรวจยืนยันจากโรงพยาบาลจิตเวทว่ามีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ แต่จากข้อมูลพบว่ามีนัดตรวจและรับยารักษาอาการป่วยทางจิตที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ในวันที่ 25 ธ.ค.60
น.ส.ศริยา สุวรรณะ นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลจาก ด.ญ.เอ และเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าได้ถูกชายสูงอายุ ล่อลวงไปเพื่อพยายามจะกระทำการล่วงละเมิด แต่เนื่องจากเด็กขัดขืนจึงใช้กำลังบีบคอ ก่อนจะมีพลเมืองดีมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน และนำตัวส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังได้ขอความร่วมมือผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน ได้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานของตนเองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก
ขณะที่ ด.ญ.เอ และเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าตรงกันว่า รู้จักกับชายสูงอายุวัย 61 ปีที่ก่อเหตุ เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน โดยในวันเกิดเหตุได้หลอกล่อให้ตนทั้งสองนั่งจักรยานไปเป็นเพื่อน เพื่อไปกดเงินที่ตัวอำเภอบ้านด่าน และบอกจะให้เงินคนละ 300 บาทจึงยอมไปด้วย แต่ระหว่างทางได้จอดรถจักรยานแล้วอุ้ม ด.ญ.เอ เข้าไปในป่าอ้อยก่อนจะถอดกางเกงออก แต่ ด.ญ.เอ ขัดขืนจึงใช้มือบีบคอ ขณะที่เพื่อนซึ่งถูกปล่อยให้รออยู่บนถนนเห็นชาวบ้านผ่านมา จึงตะโกนให้ช่วยเหลือจนสามารถรอดมาได้ ทั้งบอกว่ายังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น